จิปาถะ

เปิดสเปก ‘787 ดรีมไลเนอร์’ ฝูงบินใหม่เข้าทัพ ‘การบินไทย’


21 กุมภาพันธ์ 2567

ส่องสเปกฝูงบินใหม่ หลัง “การบินไทย” ประกาศจัดหาเสริมทัพระยะ 10 ปี เคาะเลือกโบอิ้ง 787 - 9 Dreamliner 45 ลำ พร้อมสั่งเครื่องยนต์ GEnx เครื่องยนต์สมรรถภาพแรงขับสูง

เปิดสเปก 787.jpg

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ประกาศจัดหาฝูงบินใหม่เสริมทัพระยะ 10 ปี โดยล่าสุดในงานสิงคโปร์แอร์โชว์ 2024 สาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้ลงนามบรรลุข้อตกลงร่วมกับบริษัท โบอิ้ง และบริษัท จีอี แอโรสเปซ เพื่อจัดหาเครื่องบินโบอิ้ง 787 - 9 Dreamliner (ดรีมไลเนอร์) ลำใหม่ จำนวน 45 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ GEnx รวมทั้งสิทธิในการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมสูงสุดรวมเป็น 80 ลำ


สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 787 - 9 ดรีมไลเนอร์ นับเป็นหนึ่งในอากาศยานประจำฝูงบินของการบินไทยในปัจจุบัน โดยมีจำนวนให้บริการ 2 ลำ ทยอยรับลำแรกในเที่ยวบินพิเศษ TG8909 ออกจากศูนย์ส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง เอเวอร์เรต ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2560 เวลา 21.20 น. (เวลาท้องถิ่น) มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 17 ก.ย.2560 เวลา 01.55 น. (เวลาท้องถิ่น) 

โดยเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ เป็นสมาชิกอันดับ 2 ในตระกูลโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ เป็นเครื่องบินที่รวมทั้งความทันสมัยและความมีประสิทธิภาพ ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับโบอิ้ง 787-8 จะมีลำตัวเครื่องบินยาวกว่าประมาณ 6 เมตร ทำให้สามารถบรรทุกผู้โดยสารและสินค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันการบินไทยได้จัดที่นั่งในเครื่องบินลำนี้รวมจำนวน 298 ที่นั่ง

อีกทั้งเครื่องบินรุ่นนี้ ยังพัฒนาด้วยโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบามาใช้ในการประกอบลำตัวและปีกเครื่องบิน นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีการกรองอากาศในการทำความสะอาดอากาศภายในห้องโดยสารเครื่องบิน ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสบายในการเดินทางมากที่สุด

สำหรับห้องโดยสารและเก้าอี้ บนเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ที่ปัจจุบันให้บริการอยู่นั้น ได้รับการออกแบบด้วยแนวคิดไทยร่วมสมัย (Thai Contemporary Design Concept) ด้วยเก้าอี้โดยสารชั้นธุรกิจ ซึ่งมีอยู่ 30 ที่นั่ง ถูกจัดวางอย่างเหมาะสมด้วยความกว้างที่นั่ง 20 นิ้ว สามารถปรับเอนนอนราบได้ 180 องศา ทุกที่นั่งมีความเป็นส่วนตัวและเข้าสู่ทางเดินได้อย่างสะดวก

สำหรับชั้นประหยัด มีอยู่ 268 ที่นั่ง ในโทนสีม่วงและเหลืองสดใส และที่เป็นจุดเด่นของเครื่องบินรุ่นนี้ คือ หน้าต่างที่กว้างขึ้น ทำให้เห็นมุมมองที่กว้างใหญ่สบายสายตามากขึ้น พร้อมระบบปรับความเข้มของแสงที่ผ่านเข้าหน้าต่างแบบสัมผัส (Electromagnetic Windows Shades)

ในส่วนของระบบสาระบันเทิงบนเครื่องบิน (In-Flight Entertainment) ภายในเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ เป็นระบบ Panasonic eX3 ที่มีความทันสมัย สามารถรองรับรสนิยมผู้โดยสารได้อย่างมากมายหลายรูปแบบทั้งภาพยนตร์ เกมส์ เพลง และรายการโทรทัศน์ ผ่านระบบดิจิตัลได้บนหน้าจอทีวีส่วนตัวขนาด 16 นิ้ว สำหรับชั้นธุรกิจ และขนาด 11 นิ้ว สำหรับชั้นประหยัด รวมทั้งให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ Wi-Fi บนเครื่องบิน เพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารสำหรับผู้โดยสารในยุคดิจิทัล

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้บรรลุข้อตกลงในการจัดหาอากาศยานใหม่เพื่อเข้ามาทดแทนอากาศยานที่กำลังจะปลดระวางในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยเป็นการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูที่ยื่นไว้ต่อศาลล้มละลาย อีกทั้งขอยืนยันว่าการบินไทยไม่ได้จัดซื้อเครื่องบิน แต่เป็นการจัดหาในลักษณะเช่าดำเนินงาน (Operating Lease)

สำหรับอากาศยานที่การบินไทยจะจัดหาใหม่นั้น เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787 - 9 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งมีลำตัวกว้างรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับพิสัยการบินระยะไกล ความจุผู้โดยสาร และสมรรถนะขั้นสูงสุด โดยเครื่องบินรุ่นนี้ปัจจุบันการบินไทยมีให้บริการในฝูงบินอยู่แล้ว แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้มีชั่วโมงบินเพิ่ม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

เนื่องจากอากาศยานโบอิ้ง 787 - 9 ดรีมไลเนอร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ เทรนท์ 1000 ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถประหยัดน้ำมัน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 20% ขณะที่อากาศยานรุ่นใหม่นี้ จะใช้เครื่องบิน GEnx มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น เครื่องยนต์มีชั่วโมงบินรวมกันมากกว่า 50 ล้านชั่วโมง ตั้งแต่เริ่มมีการใช้งานในปี 2554 และเป็นตระกูลเครื่องยนต์แรงขับสูง ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ GE

สกรีนช็อต 2024-02-21 145412.png
ทั้งนี้ การจัดหาเครื่องบินนับเป็นหมุดหมายสำคัญของการบินไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาฝูงบินให้เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากการเดินทางกับการบินไทย ซึ่งเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ จะเข้าประจำการในฝูงบินภายใต้กรอบระยะเวลา 10 ปี โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1114265