Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 22-02-24


22 กุมภาพันธ์ 2567
Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม  22-02-24

21-02-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยเวลา 7.30 น.มีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ     

***มาช่วยลุ้น-ช่วยเชียร์กันค่ะสำหรับ PANEL วันนี้จะเข้าซื้อขายวันแรกในกระดาน mai ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยมีหุ้นเพียง  50 ล้านหุ้น ราคาขายไอพีโออยู่ที่ 3.68 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 184 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO  699.20 ล้านบาท มี "เอส 14 แอดไวเซอรี่" เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบล.โกลเบล็ก เป็นลีดอันเดอร์ไรท์

*** PANEL หรือ บมจ.เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผนังบานเลื่อนกันเสียงเคลื่อนที่ ประตูกระจก ระบบทางเข้าออกอัจฉริยะ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าออกแบบตกแต่งภายในสำหรับอาคารทั่วไป ภายใต้แบรนด์ PANELÉS นอกจากนี้ ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าใช้งานในสถานพยาบาลแบรนด์ MANUSA จากประเทศสเปน 
 
***แต่สำหรับไอพีโอตัวต่อๆ ไปในอนาคตที่อยากจะระดมทุนและเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น.. ต้องมาดูทางนี้ก่อนเด้อ!!! ตลท.เค้าปรับเกณฑ์ใหม่นะคะ!! ปรับปรุงคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนทั้ง SET และ mai โดยเพิ่มมูลค่ากำไรและส่วนของผู้ถือหุ้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรงทั้งด้านฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน ซึ่งจะมีผลใช้บังคับวันที่ 1 มกราคม 2568 เพื่อให้บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนและผู้ที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามเกณฑ์ใหม่ได้

***ในส่วนของ SET กำไรปีล่าสุดต้องไม่ต่ำกว่า 75 ล้านบาท..จากเดิม 30 ล้านบาท และรวม 2-3 ต้องมีกำไรมากกว่า 125 ล้านบาท..จากเดิมแค่ 50 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นต้องไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท..จาก 300 ล้านบาท ส่วนทุนชำระแล้วลดลงเป็น 100 ล้านบาท..จากเดิมต้อง 300 ล้านบาท แต่สัดส่วนการถือหุ้นรายย่อย หรือที่เรียกกันว่า free float  เพิ่มเป็น 30% จากเดิม 25% และเปอร์เซ็นต์การขายหุ้นไอพีโอ เพิ่มเป็น 20% ขึ้นไปจากเดิม 15%

***ส่วนตลาด mai กำไรปีล่าสุดต้องไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท..จากเดิม 10 ล้านบาท และรวม 2-3 ต้องมีกำไรมากกว่า 40 ล้านบาท..จากเดิมไม่ได้มีการกำหนดส่วนนี้เอาไว้ ส่วนของผู้ถือหุ้นต้องไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท..จาก 50 ล้านบาท ส่วนทุนชำระแล้วเท่าเดิม 50 ล้านบาท และสำหรับสัดส่วนของ free float  และเปอร์เซ็นต์การขายหุ้นไอพีโอ ใช้เกณฑ์เดียวกับ SET

***ปรบมือรัวๆๆๆๆ ให้กับ  PSP เจ๊นี่ปลื้มปริ่ม!!!!  หุ้นสุดที่รักได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี  FTSE All World Index ในกลุ่ม FTSE Micro Cap โดยจะมีผลบังคับใช้หลังราคาปิดของวันที่ 15 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป งานนี้บิ๊กบอสหนุ่มไฟแรง “เสกสรร ครองพาณิชย์” เชื่อว่าจะทำให้หุ้น PSP ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจาก FTSE เป็นองค์กรที่ได้รับความน่าเชื่อถือระดับโลก และสามารถใช้เป็นดัชนีที่อ้างอิงในการตัดสินใจเข้าลงทุนอีกด้วย 

***"การที่ PSP ได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณใน FTSE Micro Cap สะท้อนให้เห็นถึงหุ้นที่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย และจะทำให้หุ้น PSP อยู่ในโฟกัสของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น ตอกย้ำให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินมีความมั่นคง และยังมีโอกาสในการเติบโตได้ในระยะยาวจากการเข้าลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง" 

***ส่วนแผนงานปีนี้ของ PSP บอสหนุ่ม-หล่อ-ไฟแรงงงงง ได้ตั้งเป้าผลการดำเนินงานเติบโตจากปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามภาพรวมของตลาดที่มีการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และมีภาระดอกเบี้ยลดลงจากการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเสนอขายหุ้นไอพีโอส่วนหนึ่งนำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน รวมทั้งบริษัทฯ ขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งจะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งรายได้และกำไรตามสัดส่วนการลงทุนในทันที 

***มาถึงอีกหนึ่งหนุ่มที่ยังมาดแมนแอนด์แฮนซั่ม!!  "วิโรจน์ วชิรเดชกุล"  หรือ "พี่โจ"ของน้องๆ บอกว่าในปี 67 นี้ SNNP จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ โดยบริษัทฯยังมองเห็นโอกาสในการทำตลาดในประเทศอื่น เช่น ฟิลิปปินส์, เกาหลี และจีน เป็นต้น และยังคงเฟ้นหาตลาดเพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น หลังจากรอบปี 66 ที่ผ่านมาผลงานดำเนินงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่!!!

***ผลงานของ SNNP ปี 66 มีกำไรสุทธิ 636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือ 23% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ส่วนรายได้รวม 6,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 445  ล้านบาท หรือ  8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 5,604 ล้านบาท นอกจากนี้บอร์ดใจป๋าสุดๆ  สั่งจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พ.ค. 2567 กำหนดจ่ายวันที่ 24 พ.ค. 2567  จุ๊-จุ๊!!! ที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.232 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.482 บาท/หุ้น 

***นี่ก้อเริ่ดดดดดดด-เจิดจรัส ไม่แพ้ใคร I2 ภายใต้การนำของ "อธิพร ลิ่มเจริญ" กำไรปี 6 พุ่งปรี๊ดดดดดดดดด!!! ทำได้มากถึง 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาท หรือ 90% เทียบปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 45 ล้านบาท  และที่นี่ก้อใจป๋าไมแพ้ใคร!!! บอร์ดลงมติปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.068 บาท/หุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 4 มี.ค.67 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พ.ค.67

***ส่วนแผนธุรกิจของ I2 ปีนี้ ..ผู้บริหารคนเก่ง+ขยันฝุดๆ บอกว่ายังคงดำเนินงานตาม Solution ของบริษัทฯ โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG การใช้พลังงานหมุนเวียน การประหยัดพลังงาน การลดก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงการสรรหาลูกค้าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีแผนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้าน ESG และด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด สอดคล้องเมกะเทรนด์ 

***ไฮไลท์สำคัญอยู่ตรงนี้พวกเรา!!!! ปีนี้ I2 ตั้งเป้าหมายรายได้พุ่งแตะระดับ 1,500 ล้านบาท เติบโต 20% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยการเติบโตมาจากธุรกิจด้านประหยัดพลังงาน และปัจจุบันมี Backlog ในมือราว 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีแผนร่วมประมูลงานใหม่มูลค่าประมาณ 6,455 ล้านบาทดันผลงาน 1-2 ปีข้างหน้าเติบโตก้าวกระโดด