จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : WP ทุ่ม 500 ลบ. ลงทุนธุรกิจพลังงานสีเขียว รับกระแสรัฐบาลหนุนใช้พลังงานหมุนเวียน
27 กุมภาพันธ์ 2567
บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ทุ่มงบลงทุนปี 67 เน้นพลังงานสะอาด 500 ล้านบาท ขานรับนโยบายพัฒนาพลังงานหมุนเวียนของรัฐบาล
รัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero Carbon Emission หรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างจริงจัง หลังอุณหภูมิประเทศต่างๆทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงจนส่งผลให้เกิดความผิดปกติของสภาพอากาศ และล่าสุดสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ก็มีแผนที่จะทบทวนและปรับปรุง ร่างแผนพลังงานชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
นอกจากนี้แผนงานในปี67 ของ สนพ. ยังมีเรื่อง การนำเสนอแนวทางการเปิดเสรีในกิจการไฟฟ้า ซึ่งจะมีโครงสร้างกิจการไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการแข่งขันในระยะทดลอง-นำร่อง ในปี67-68 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดกลไกการแข่งขันที่สะท้อนต้นทุนทางด้านราคาแทนการอุดหนุนทางด้านราคา และเปิดโอกาสให้มีธุรกิจใหม่ทางด้านพลังงานเกิดขึ้น และภาครัฐสามารถใช้เป็นกลไกให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero Carbon Emission ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
แนวทางการสนับสนุนพลังงานสีเขียวของรัฐบาล เป็นไปในทิศทางเดียวกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ระบุแผนลงทุนในปีนี้ บริษัทตั้งงบไว้ที่ 600 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนในธุรกิจ Green Energy 500 ล้านบาท และส่วนอื่นๆอีกประมาณ 100 ล้านบาท
โดยบริษัทฯยังคงมองหาการลงทุนหรือขยายโอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมที่คาดว่า จะอยู่ใน Trend การเติบโตในอนาคต เช่น โครงการพลังงานลม, EV , และ Battery Storage ฯลฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นรูปแบบการลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ สอดรับเมกะเทรนด์รักษ์โลก ตอบโจทย์ ESG หนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งบริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะที่ระดับ 18,250 ล้านบาท มาจากยอดขายก๊าซ LPG จำนวน 820,000 ตัน เนื่องจากมองว่า อุตสาหกรรมก๊าซ LPG เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มผลงานในปีนี้มีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 66 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้รวมอยู่ที่ 18,183.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,652.38 ล้านบาท หรือ 17.08 % เทียบปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 15,531.58 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีกำไรสุทธิ 122.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.61 ล้านบาท หรือ 6.63% เทียบปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 114.66 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยว รวมถึงราคาขายก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก
ทั้งนี้ ในปี 66 มียอดขายก๊าซ LPG กว่า 801,888 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 762,396 ตัน และส่งออกจำนวน 39,492 ตัน โดยบริษัทฯยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 168 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น รองรับความต้องการของผู้บริโภค
ส่วนความคืบหน้าธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาไปรวมทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ มั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้กับบริษัทฯ หนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต
รัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero Carbon Emission หรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างจริงจัง หลังอุณหภูมิประเทศต่างๆทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงจนส่งผลให้เกิดความผิดปกติของสภาพอากาศ และล่าสุดสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ก็มีแผนที่จะทบทวนและปรับปรุง ร่างแผนพลังงานชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
นอกจากนี้แผนงานในปี67 ของ สนพ. ยังมีเรื่อง การนำเสนอแนวทางการเปิดเสรีในกิจการไฟฟ้า ซึ่งจะมีโครงสร้างกิจการไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการแข่งขันในระยะทดลอง-นำร่อง ในปี67-68 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดกลไกการแข่งขันที่สะท้อนต้นทุนทางด้านราคาแทนการอุดหนุนทางด้านราคา และเปิดโอกาสให้มีธุรกิจใหม่ทางด้านพลังงานเกิดขึ้น และภาครัฐสามารถใช้เป็นกลไกให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero Carbon Emission ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
แนวทางการสนับสนุนพลังงานสีเขียวของรัฐบาล เป็นไปในทิศทางเดียวกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง” ระบุแผนลงทุนในปีนี้ บริษัทตั้งงบไว้ที่ 600 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนในธุรกิจ Green Energy 500 ล้านบาท และส่วนอื่นๆอีกประมาณ 100 ล้านบาท
โดยบริษัทฯยังคงมองหาการลงทุนหรือขยายโอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมที่คาดว่า จะอยู่ใน Trend การเติบโตในอนาคต เช่น โครงการพลังงานลม, EV , และ Battery Storage ฯลฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นรูปแบบการลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ สอดรับเมกะเทรนด์รักษ์โลก ตอบโจทย์ ESG หนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งบริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะที่ระดับ 18,250 ล้านบาท มาจากยอดขายก๊าซ LPG จำนวน 820,000 ตัน เนื่องจากมองว่า อุตสาหกรรมก๊าซ LPG เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มผลงานในปีนี้มีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 66 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้รวมอยู่ที่ 18,183.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,652.38 ล้านบาท หรือ 17.08 % เทียบปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 15,531.58 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีกำไรสุทธิ 122.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.61 ล้านบาท หรือ 6.63% เทียบปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 114.66 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยว รวมถึงราคาขายก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก
ทั้งนี้ ในปี 66 มียอดขายก๊าซ LPG กว่า 801,888 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 762,396 ตัน และส่งออกจำนวน 39,492 ตัน โดยบริษัทฯยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 168 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น รองรับความต้องการของผู้บริโภค
ส่วนความคืบหน้าธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาไปรวมทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ มั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้กับบริษัทฯ หนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต