"ส.อ.ท." ชี้ "SMEs" ใกล้วิกฤต หลังดอกเบี้ยพุ่งซ้ำเติมช่วงโควิด19 ดันต้นทุนปรับตัวสูง ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวน้อยเห็นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/66 โตแค่ 1.7% แนะนายกกับผู้ว่า ธปท. เร่งหารือร่วมกัน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงข้อเสนอต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวน้อย โดยจะเห็นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/66 โตแค่ 1.7%
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศอื่นที่เป็นคู่แข่งไทยต่างเติบโต แต่จีดีพีไทยสู่ไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่น่ากังวลใจเวลานี้คือสถานการณ์ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี (SMEs) ส่วนใหญ่ที่ยอดขาย ยอดบริการ รายได้ ต่างลดลง ไม่ได้เติบโตแบบธุรกิจรายใหญ่ที่สายป่านยาวกว่า
โดยเอสเอ็มอีเผชิญกับภาวะยอดขายลดลงหรือเท่าเดิมมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 พอหมดโควิดก็ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ขณะที่มาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประกาศเดินหน้า 2 ขาหลัก ก็ทำได้เพียงขาแรก คือ มาตรการลดค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายทางการเงิน เช่น ราคาพลังงาน การแก้ปัญหาเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยสูง
ส่วนขาที่สอง คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินดิจิทัลวัลเล็ต ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ จนทำให้เศรษฐกิจไทยไม่มีแรงส่ง ไม่มียาแรงเข้ากระตุ้น
"ล่าสุดเอสเอ็มอีไทยยังต้องเผชิญกับต้นทุนทางการเงินที่สูงมากจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเอสเอ็มอีจะมีต้นทุนทางการเงินสูงกว่าธุรกิจรายใหญ่ แต่ได้รับอนุมัติเงินกู้ที่น้อยกว่ารายใหญ่ ดังนั้นเรื่องนี้รัฐบาล หน่วยงานรัฐต้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจไทยจะมีปัญหาแน่นอน"
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป หาก ธปท.ไม่ดำเนินการใดเลย และรอเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเดียวอาจไม่ทันการ ดังนั้นเวลานี้สิ่งที่ควรเกิดขึ้นโดยเร็วคือ การหารือกันอย่างเป็นทางการระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
และนำประเด็นเศรษฐกิจมาหารือร่วมกันว่าจะขับเคลื่อนอย่างไร การที่เศรษฐกิจเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่ทำอะไรจะเกิดปัญหาอะไร หรือถ้าลดดอกเบี้ยตามที่รัฐบาลต้องการจะเกิดผลดีผลเสียอย่างไร ต้องการให้คุยกันทางการ เปิดใจคุยกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าจะเดินไปทิศทางไหน
นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปอีกว่า ในมุมมองของเอกชนที่สัมผัสกับผู้ประกอบการทุกขนาดและทั่วประเทศ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี รับทราบดีว่าเวลานี้เศรษฐกิจไทยที่เห็นการขยายตัวคือเศรษฐกิจในเมืองหลัก แต่หากเป็นเศรษฐกิจในเมืองเล็กตามจังหวัด ค่อนข้างซึม นั่นเพราะไทยกำลังเผชิญความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เป็นโครงสร้างที่น่ากังวล ต้องปรับโครงสร้างโดยเร็ว โดยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยยังเป็นแบบกระจุกตัว คนตัวเล็กกู้ไม่ได้ หรือกู้ได้ต้องเผชิญดอกเบี้ยแพง ขณะที่คนตัวใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ รายได้ยังเพิ่ม ธุรกิจยังเติบโต
"การที่บางหน่วยงานบอกเศรษฐกิจไทยกำลังเติบโต ฟื้นตัว ต้องการให้มองทุกมิติ ทุกจุด ทั่วประเทศว่าสถานการณจริงเป็นอย่างไร ส.อ.ท.มีสมาชิกทั่วประเทศ รับรู้ถึงภาวะการค้าการขายว่าค่อนข้างทรงตัวมาตลอด ดังนั้นหน่วยงานที่เก็บข้อมูลต้องดูให้รอบด้าน ควรออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มที่กำลังประสบปัญหาโดยด่วน ก่อนที่สถานการณ์จะสายเกินไป"
ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/economy/589522