สัมภาษณ์พิเศษ : BKGI หุ้นเทคโนโลยีไบโอเทครายแรกของไทย อนาคตสดใสรับเมกะเทรนด์โลก

เมกะเทรนด์โลกด้านการแพทย์ในอนาคต มีแนวโน้มเน้นไปที่เทคโนโลยีไบโอเทคและความสำคัญของการตรวจพันธุกรรม  ซึ่งแนวทางดังกล่าวมีลักษณะอย่างไร  เราไปติดตามกระแสเมกะเทรนด์โลกนี้กับ  ดร.เสาวลักษณ์  ด่านสกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) 



ความเป็นมาของธุรกิจ BKGI
บริษัททำธุรกิจเกี่ยวข้องกับห้องปฎิบัติการ  ซึ่งธุรกิจหลักคือการตรวจที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม อยู่ในกลุ่มของพันธุกรรมวัยเจริญพันธุ์  การติดเชื้อ  การตรวจคัดกรองต่างๆในเรื่องของพันธุกรรมและด้านเทคโนโลยี  และเรื่องการขายผลิตภัณฑ์เป็นเรื่องของเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมอย่างครบวงจร 

ความสำคัญของการตรวจพันธุกรรม
ปัจจุบันการตรวจพันธุกรรมจะมีบทบาทมากในทุกช่วงชีวิต   ตั้งแต่ยังไม่เกิด คือการวางแผนของคุณพ่อคุณแม่  หรือการวางแผนครอบครัว โดยเฉพาะโรคทางพันธุกรรม  ส่วนระหว่างการตั้งครรภ์  ถ้าเด็กเกิดจากเทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว   ก็จะมีเทคโนโลยีตรวจพันธุกรรมที่เกี่ยวข้อง  หลังตั้งครรภ์ มีเทคโนโลยีในเรื่องการตรวจดาวซินโดรม  และพอโตเป็นผู้ใหญ่ก็มีเรื่องการตรวจเพื่อป้องกัน  คัดกรอง  การวินิจฉัยโรค  ในกรณีที่เป็นคนป่วยเป็นโรคมะเร็งก็สามารถใช้ด้านพันธุกรรมตรวจได้ครบวงจร

เรื่องวิศวพันธุกรรมเป็นเมกะเทรนด์ของโลกอย่างไร
สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบัน ก็มีส่วนสำคัญ เพราะการมีสุขภาพที่ดีมีสุขภาวะที่ดี  การตรวจพันธุกรรมก็มีบทบาทมากในเรื่องการป้องกัน  การทำนายเรื่องของโลกในอนาคต  การดูแลเรื่องWellness 

BKGI มีจุดแข็งหรือจุดเด่นในการทำธุรกิจอย่างไร
BKGI ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย หรือเป็นบริษัทที่ซื้อมาและขายไป  แต่บริษัทเรามีผู้ถือหุ้นเป็นผู้นำในตลาดโลกที่ให้บริการด้านการตรวจคัดกรองและการบริการในเรื่องการจัดจำหน่ายเรื่องแพลตฟอร์ม เทคโนโลยีหรือการแพทย์จีโนมิกซ์ จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าไม่มีการอ่านและประมวลผลที่ดี  ดังนั้นพันธมิตรหลักของบริษัท คือบริษัท BGI  ซึ่งนอกจากเป็นผู้นำระดับโลกแล้ว ยังมีเรื่องการทำงานวิจัยขึ้นมาสนับสนุน และเรายังมีห้องปฎิบัติการที่ทันสมัยสามารถวิเคราะห์ผลได้ทันที  โดยไม่ต้องส่งไปอ่านผลยังต่างๆประเทศ  จึงเป็นจุดแข็งของบริษัทที่แตกต่างจากคู่แข่งอื่น 

กลุ่มลูกค้าบริษัทเป็นใคร 
เนื่องจากเรามีการตรวจคัดกรองจากเลือกแม่ ดังนั้นกลุ่มลูกค้าจึงเป็นคลีนิคสูตินารีเวช  รพ.ต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นภาคเอกชน เนื่องจากเคสในการตรวจพันธุกรรมราคายังอยู่ระดับสูงกว่าการตรวจผลเลือดทั่วไป  แต่แม้ราคาจะสูงแต่ก็ถือว่าราคาได้ปรับลดลงมากเมื่อเทียบกับ 30 ปีที่ผ่านมา  ซึ่งราคาที่ปรับลดลงมาก ทำให้การเข้าถึงของกลุ่มลูกค้าก็มีมากขึ้น และบริษัทยังมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งแพคเก็ตเล็ก และแพคเก็ตใหญ่ 

ปัจจุบันการเข้าถึงในการตรวจด้านพันธุกรรมเป็นอย่างไร
การเข้าถึงเริ่มมีมากขึ้น  และหลังๆมีการพัฒนาเทคโนโลยี ทาง BKGI เองก็มีการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้คนเข้าถึงการตรวจง่ายขึ้น เช่น เมื่อก่อนมีโครงการจีโนมิกส์ ซึ่งเป็นการถอดรหัสพันธุกรรมของมนุษย์  ซึ่งในเวลา 10 ปี  ใช้งบประมาณสูงถึง 1 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบันโครงการจีโนมิกซ์ประเทศไทยปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 1,000 ดอลลาร์  ทำให้การเข้าถึงทำได้ง่ายขึ้น  

การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
แผนการระดมทุนนอกเหนือจากที่จะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับแผนขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดดแล้ว  เป้าหมายหลักของ BKGI คือการยกระดับมาตรฐานองค์กร สามารถตรวจสอบได้ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงลูกค้าที่มาใช้บริการของเรา ซึ่งมีคุณภาพมาตรฐานในระดับสากล

เพราะการตรวจพันธุกรรมมีหลายด้าน ทั้งเรื่องการรักษาโรค  การป้องกันโรค   และเป็นเมกะเทรนด์ในเรื่องสังคมผู้สุงอายุที่ต้องการมีสุขภาวะที่ดี  และเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจ  เพราะปัจจุบันประชาชนมีความเข้าใจในเรื่องการตรวจพันธุกรรมมากขึ้น  ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัท

เงินที่ได้จากการระดมทุนเอาไปทำอะไร 
เราออกหุ้น IPO 160  ล้านหุ้น   โดยจะนำเงินที่ได้มาขยายการประกอบธุรกิจของบริษัท ในเรื่องการให้การบริการที่มากขึ้น  ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์จนถึงวัยชรา   โดยเราเป็นบริษัทที่ปลอดหนี้ 100% 

แผนธุรกิจในอนาคต
นอกจากการให้บริการด้านการตรวจพันธุกรรมแล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะจำหน่ายอุปกรณ์  เครื่องมือวิทยาศาสตร์ต่างๆที่ใช้ในการตรวจให้บริการกับลูกค้า