by.พูเมซ่า
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนและปัจจัยที่มีอิทธิพลจากนี้ไปเป็นเรื่องของประเด็นทางการเมือง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น โดยบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า กระแสการเก็งกำไรในเรืองการเมืองรอบนี้ น่าจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองในรอบนี้แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา กล่าวคือ การยุบสภาฯ ส่วนใหญ่ในรอบที่ผ่านมามักจะเกิดจากแรงกดดันที่อาจไปถึงความรุนแรง ทำให้การยุบสภาฯถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ในรอบนี้ยังไม่เห็นสภาวะดังกล่าว แต่กลับเกิดความไม่แน่ใจว่าสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ส่วนประเด็นอื่นที่อาจสร้างแรงกดดันเพิ่มมี 2 เรื่องหลักคือ ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทำให้เริ่มมีความเห็นว่า Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมรอบถัดไป ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่ร้อนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้มีการทำรายการขายหุ้นในกระดานซื้อขายรายใหญ่(big lot) โดยเป็นการทำรายการขายให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันอย่างคึกคัก และจะเห็นว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นแต่ละรายก็จะได้รับเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยบริษัทที่มีการทำรายการได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ประกอบด้วย
บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ช่วงวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวนรวม 54,000,000 หุ้น ซึ่งเป็นการขายในส่วนของกลุ่มผู้ถือหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งหมด ดังนี้
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ขายหุ้น 14 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.96%% ส่งผลถือหุ้นลดลงจาก 13.41% เหลือ 12.45% และนางสาวยุวดี พงษ์อัชฌา ขายหุ้น 40 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.75% ส่งผลถือหุ้นจาก 7.61% เหลือ 4.86%
การซื้อขายหุ้นดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงาน หรือโครงสร้างการจัดการของบริษัท และผู้ซื้อหุ้นในครั้งนี้เป็นผู้ลงทุนประเภทสถาบัน ไม่มีผู้ใดเข้าข่ายต้องทำ Tender
บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ กรรมการบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 และ นายพิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์ กรรมการบริษัท กรรมการบริษัทฯ ได้ทำการโอนหุ้นผ่านกระดาน Big Lot รวมทั้งสิ้น 3% (หรือ 3,000,000 หุ้น) ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท ให้แก่บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ BBIK เพื่อให้เข้าเกณฑ์รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี 10% หลังหุ้น Dilute จากแผนเพิ่มทุนเพื่อเสริมแกร่งธุรกิจระยะยาว
สำหรับรายละเอียดการทำ Big Lot ให้กับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัดในครั้งนี้ ได้แบ่งการทำรายการออกเป็นทั้งหมด 2 ครั้ง ได้แก่ครั้งที่ 1 : ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา จำนวน 2,153,000 หุ้น คิดเป็น 2.15% ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท มูลค่า 299.26 ล้านบาท ครั้งที่ 2 : ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 อีกจำนวน 847,000 หุ้น คิดเป็น 0.85% ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท มูลค่า 117.73 ล้านบาท
ทั้งนี้ การถือครองหุ้นเกิน 25% ของบริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี 10% จากเงินปันผลที่ได้รับจาก BBIK ซึ่งหลังการปรับโครงสร้างหุ้น สัดส่วนการถือหุ้นของ บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ได้เพิ่มขึ้นเป็น 28% จาก 25% ในขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของคุณพชร อยู่ที่ 15.01% ลดลงจาก 16.86% ตามด้วยคุณปกรณ์ 8.93% ลดลงจาก 10% และคุณพิพัฒน์อยู่ที่ 0.62% ลดลงจาก 0.70% อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่ออำนาจในการควบคุมบริษัทฯ นโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร
ทั้งนี้ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย เพื่อประกอบธุรกิจการถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) ที่มีผู้ถือหุ้น คือ คุณพชร คุณปกรณ์ และคุณพิพัฒน์ ในสัดส่วน 61.50% 35.90% และ 2.60% ตามลำดับ หรือรวมกันทั้งสิ้น 100% อย่างไรก็ตาม กระบวนการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/66 โดยปัจจุบันกำลังเดินสาย Roadshow กับนักลงทุนที่มีศักยภาพ
จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่แต่ละรายจะรับเงินจำนวนมากจากการขายหุ้นบิ๊กล็อต ดังนี้
หากพิจารณาการเคลื่อนไหวราคาหุ้น JMART ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ลดลง 26.85%จากราคา 37.50 บาท เหลือ 27.25 บาท เคยปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 25.75 บาท
ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นBBIK ราคาลดลง 17.77% จากราคา 135 บาทเหลือ 111.50 บาท เคยปรับตัวต่ำสุดที่ราคา 107.50 บาท
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนและปัจจัยที่มีอิทธิพลจากนี้ไปเป็นเรื่องของประเด็นทางการเมือง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น โดยบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า กระแสการเก็งกำไรในเรืองการเมืองรอบนี้ น่าจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองในรอบนี้แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา กล่าวคือ การยุบสภาฯ ส่วนใหญ่ในรอบที่ผ่านมามักจะเกิดจากแรงกดดันที่อาจไปถึงความรุนแรง ทำให้การยุบสภาฯถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ในรอบนี้ยังไม่เห็นสภาวะดังกล่าว แต่กลับเกิดความไม่แน่ใจว่าสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ส่วนประเด็นอื่นที่อาจสร้างแรงกดดันเพิ่มมี 2 เรื่องหลักคือ ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทำให้เริ่มมีความเห็นว่า Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมรอบถัดไป ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่ร้อนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้มีการทำรายการขายหุ้นในกระดานซื้อขายรายใหญ่(big lot) โดยเป็นการทำรายการขายให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันอย่างคึกคัก และจะเห็นว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นแต่ละรายก็จะได้รับเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยบริษัทที่มีการทำรายการได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ประกอบด้วย
บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ช่วงวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวนรวม 54,000,000 หุ้น ซึ่งเป็นการขายในส่วนของกลุ่มผู้ถือหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งหมด ดังนี้
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ขายหุ้น 14 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.96%% ส่งผลถือหุ้นลดลงจาก 13.41% เหลือ 12.45% และนางสาวยุวดี พงษ์อัชฌา ขายหุ้น 40 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.75% ส่งผลถือหุ้นจาก 7.61% เหลือ 4.86%
การซื้อขายหุ้นดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงาน หรือโครงสร้างการจัดการของบริษัท และผู้ซื้อหุ้นในครั้งนี้เป็นผู้ลงทุนประเภทสถาบัน ไม่มีผู้ใดเข้าข่ายต้องทำ Tender
บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ กรรมการบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 และ นายพิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์ กรรมการบริษัท กรรมการบริษัทฯ ได้ทำการโอนหุ้นผ่านกระดาน Big Lot รวมทั้งสิ้น 3% (หรือ 3,000,000 หุ้น) ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท ให้แก่บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ BBIK เพื่อให้เข้าเกณฑ์รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี 10% หลังหุ้น Dilute จากแผนเพิ่มทุนเพื่อเสริมแกร่งธุรกิจระยะยาว
สำหรับรายละเอียดการทำ Big Lot ให้กับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัดในครั้งนี้ ได้แบ่งการทำรายการออกเป็นทั้งหมด 2 ครั้ง ได้แก่ครั้งที่ 1 : ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา จำนวน 2,153,000 หุ้น คิดเป็น 2.15% ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท มูลค่า 299.26 ล้านบาท ครั้งที่ 2 : ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 อีกจำนวน 847,000 หุ้น คิดเป็น 0.85% ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท มูลค่า 117.73 ล้านบาท
ทั้งนี้ การถือครองหุ้นเกิน 25% ของบริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี 10% จากเงินปันผลที่ได้รับจาก BBIK ซึ่งหลังการปรับโครงสร้างหุ้น สัดส่วนการถือหุ้นของ บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ได้เพิ่มขึ้นเป็น 28% จาก 25% ในขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของคุณพชร อยู่ที่ 15.01% ลดลงจาก 16.86% ตามด้วยคุณปกรณ์ 8.93% ลดลงจาก 10% และคุณพิพัฒน์อยู่ที่ 0.62% ลดลงจาก 0.70% อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่ออำนาจในการควบคุมบริษัทฯ นโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร
ทั้งนี้ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย เพื่อประกอบธุรกิจการถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) ที่มีผู้ถือหุ้น คือ คุณพชร คุณปกรณ์ และคุณพิพัฒน์ ในสัดส่วน 61.50% 35.90% และ 2.60% ตามลำดับ หรือรวมกันทั้งสิ้น 100% อย่างไรก็ตาม กระบวนการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/66 โดยปัจจุบันกำลังเดินสาย Roadshow กับนักลงทุนที่มีศักยภาพ
จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่แต่ละรายจะรับเงินจำนวนมากจากการขายหุ้นบิ๊กล็อต ดังนี้
ชื่อ | จำนวนหุ้นขาย(ล้านหุ้น) | มูลค่า (ลบ.) |
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา | 14 | 371 |
ยุวดี พงษ์อัชฌา | 40 | 1,060 |
พชร อารยะการกุล | 1.84 | 255.76 |
ปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ | 1.07 | 148.73 |
พิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์ | 0.76 | 148.73 |
หากพิจารณาการเคลื่อนไหวราคาหุ้น JMART ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ลดลง 26.85%จากราคา 37.50 บาท เหลือ 27.25 บาท เคยปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 25.75 บาท
ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นBBIK ราคาลดลง 17.77% จากราคา 135 บาทเหลือ 111.50 บาท เคยปรับตัวต่ำสุดที่ราคา 107.50 บาท