Smart Investment

หุ้นใหญ่ บจ.แห่ ขายบิ๊กล็อตให้สถาบัน


22 กุมภาพันธ์ 2566
by.พูเมซ่า

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนและปัจจัยที่มีอิทธิพลจากนี้ไปเป็นเรื่องของประเด็นทางการเมือง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น โดยบล.เอเซีย พลัส ระบุว่า กระแสการเก็งกำไรในเรืองการเมืองรอบนี้ น่าจะเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองในรอบนี้แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา กล่าวคือ การยุบสภาฯ ส่วนใหญ่ในรอบที่ผ่านมามักจะเกิดจากแรงกดดันที่อาจไปถึงความรุนแรง ทำให้การยุบสภาฯถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ในรอบนี้ยังไม่เห็นสภาวะดังกล่าว แต่กลับเกิดความไม่แน่ใจว่าสถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ส่วนประเด็นอื่นที่อาจสร้างแรงกดดันเพิ่มมี 2 เรื่องหลักคือ ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี ทำให้เริ่มมีความเห็นว่า Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมรอบถัดไป ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่ร้อนแรงมากขึ้น

smart invest บิ๊กบจ.โยนบิ๊กล็อตโกยเงินก้อนโต 220223.jpg
ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้มีการทำรายการขายหุ้นในกระดานซื้อขายรายใหญ่(big lot) โดยเป็นการทำรายการขายให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบันอย่างคึกคัก และจะเห็นว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นแต่ละรายก็จะได้รับเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยบริษัทที่มีการทำรายการได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ประกอบด้วย 

บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) ของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ช่วงวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2566 จำนวนรวม 54,000,000 หุ้น ซึ่งเป็นการขายในส่วนของกลุ่มผู้ถือหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งหมด ดังนี้

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ขายหุ้น 14 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.96%% ส่งผลถือหุ้นลดลงจาก 13.41% เหลือ 12.45% และนางสาวยุวดี พงษ์อัชฌา ขายหุ้น 40 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.75% ส่งผลถือหุ้นจาก 7.61% เหลือ 4.86%

การซื้อขายหุ้นดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงาน หรือโครงสร้างการจัดการของบริษัท และผู้ซื้อหุ้นในครั้งนี้เป็นผู้ลงทุนประเภทสถาบัน ไม่มีผู้ใดเข้าข่ายต้องทำ Tender
 
 บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์ กรรมการบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 และ นายพิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์ กรรมการบริษัท กรรมการบริษัทฯ ได้ทำการโอนหุ้นผ่านกระดาน Big Lot รวมทั้งสิ้น 3% (หรือ 3,000,000 หุ้น) ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท ให้แก่บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ BBIK เพื่อให้เข้าเกณฑ์รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี 10% หลังหุ้น Dilute จากแผนเพิ่มทุนเพื่อเสริมแกร่งธุรกิจระยะยาว

 สำหรับรายละเอียดการทำ Big Lot ให้กับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัดในครั้งนี้ ได้แบ่งการทำรายการออกเป็นทั้งหมด 2 ครั้ง ได้แก่ครั้งที่ 1 : ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา จำนวน 2,153,000 หุ้น คิดเป็น 2.15% ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท มูลค่า 299.26 ล้านบาท ครั้งที่ 2 : ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 อีกจำนวน 847,000 หุ้น คิดเป็น 0.85% ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 139 บาท มูลค่า 117.73 ล้านบาท

ทั้งนี้ การถือครองหุ้นเกิน 25% ของบริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี 10% จากเงินปันผลที่ได้รับจาก BBIK ซึ่งหลังการปรับโครงสร้างหุ้น สัดส่วนการถือหุ้นของ บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ได้เพิ่มขึ้นเป็น 28% จาก 25% ในขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของคุณพชร อยู่ที่ 15.01% ลดลงจาก 16.86% ตามด้วยคุณปกรณ์ 8.93% ลดลงจาก 10% และคุณพิพัฒน์อยู่ที่ 0.62% ลดลงจาก 0.70% อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่ออำนาจในการควบคุมบริษัทฯ นโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหาร

 ทั้งนี้ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย เพื่อประกอบธุรกิจการถือหุ้นบริษัทอื่น (Holding Company) ที่มีผู้ถือหุ้น คือ คุณพชร คุณปกรณ์ และคุณพิพัฒน์ ในสัดส่วน 61.50% 35.90% และ 2.60% ตามลำดับ หรือรวมกันทั้งสิ้น 100% อย่างไรก็ตาม กระบวนการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/66 โดยปัจจุบันกำลังเดินสาย Roadshow กับนักลงทุนที่มีศักยภาพ

จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่แต่ละรายจะรับเงินจำนวนมากจากการขายหุ้นบิ๊กล็อต ดังนี้ 

ชื่อ    จำนวนหุ้นขาย(ล้านหุ้น)  มูลค่า (ลบ.)
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา   14 371
ยุวดี พงษ์อัชฌา  40   1,060
พชร อารยะการกุล    1.84   255.76
ปกรณ์ เจียมสกุลทิพย์  1.07 148.73
พิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์   0.76 148.73

หากพิจารณาการเคลื่อนไหวราคาหุ้น JMART ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ลดลง 26.85%จากราคา 37.50 บาท เหลือ 27.25 บาท เคยปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 25.75 บาท 
ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นBBIK ราคาลดลง 17.77% จากราคา 135 บาทเหลือ 111.50 บาท เคยปรับตัวต่ำสุดที่ราคา 107.50 บาท