RT โชว์งบปี 66 เทิร์นอะราวด์ ตุน Backlog โต 8,520 ลบ.

RT เผยผลประกอบการปี 66 รายได้รวม 3,151 ล้านบาท โต 53.4% พลิกทำกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท เผยทิศทางไตรมาส 1/67 เติบโตดี ตุน Backlog งานภาครัฐ-เอกชน 22 โครงการ มูลค่า 8,520 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 70 พร้อมเดินหน้ารับงานใหม่สะท้อนต้นทุนจริง เร่งความสามารถทำกำไร เล็งเพิ่มทุน RO สัดส่วน 4:1 ราคา 0.55 บาท/หุ้น มูลค่าไม่รวมเกิน 151.51 ล้านบาท เสริมแกร่งรองรับธุรกิจโตต่อเนื่อง



นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธา งานขุดเจาะอุโมงค์ และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 3,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,053 ล้านบาท จำนวน 1,098 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 53.5%และ มีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท พลิกทำกำไรจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 312 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นทั้งรายได้และกำไร จากการรับรู้รายได้งานก่อสร้างในมือโดยเฉพาะงานที่ได้รับในช่วงปี 2566 ซึ่งเป็นงานสะท้อนราคาต้นทุนใหม่ อีกทั้งบริษัทสามารถบริหารงานโครงการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อส่งมอบงานได้ตามแผนและสามารถลดต้นทุนก่อสร้างได้อย่างดี 

“บริษัทยังคงพัฒนางานก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพ และทยอยส่งมอบงานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการดีและพลิกกลับมามีกำไรได้ ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชน ยังมีโอกาสขยายตัวมากขึ้นในปีนี้ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในการเข้าประมูลและเข้ารับงานใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ด้วยราคาต้นทุนงานก่อสร้างที่สะท้อนตามจริง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง”นายชวลิต กล่าว 
สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการเข้ารับงานก่อสร้างที่สะท้อนราคาต้นทุนใหม่ ซึ่งสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผนงาน และทยอยรับรู้รายได้จากการส่งมอบงาน โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการก่อสร้างในมือจำนวน 22 โครงการ และมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 8,520 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2570

นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ไม่เกิน 275.47 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในสัดส่วน 4:1 ราคาหุ้นละ 0.55 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 151.51 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 20 มีนาคม 2567 และกำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 15-21 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้จะมีมติอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 29 เมษายน 2567 โดยมีวัตถุประสงค์การเพิ่มทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดต้นทุนทางการเงิน และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต