TRP ประกาศผลงานปี 2566 กวาดรายได้รวม 713.03 ล้านบาท กำไรสุทธิ 192.56 ล้านบาทผ่าตัดทำศัลยกรรมบนใบหน้าสุดฮอต บอร์ดใจป้ำจ่ายปันผลอีก 0.30 บาท ขึ้น XD 3 พ.ค.นี้ กางแผนปี 2567 ตั้งเป้ารายได้โต 15-25% รุกผลิตภัณฑ์ดาวเด่น TRP Programs เต็มสูบ พร้อมซุ่มดีลพันธมิตรใหม่ หวังต่อยอดธุรกิจ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ "ธีรพรคลินิก" เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 192.56 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 27.20%
ในปี 2566 บริษัทมีต้นทุนทางการเงินลดลง 32.26% เนื่องจากคืนเงินกู้ยืมทั้งหมด 118 ล้านบาทในไตรมาส 4/2566 และจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับบริษัท
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 140 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74.44% ของกำไร โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 35.00 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดครึ่งหลังปี 2566 เพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นเงิน 105 ล้านบาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2567
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชลธิศ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการดำเนินงานในปี 2567 ว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 15-25% จากปี 2566 ด้วยกลยุทธ์หลัก การให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้ารุกการบริการผลิตภัณฑ์ดาวเด่น อย่าง TRP Programs นวัตกรรมเฉพาะของ TRP ที่ช่วยยกกระชับและคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้าอย่างเห็นผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึง Fat Stem Cell ซึ่งช่วยลดเรือนริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใสของใบหน้า และหาพันธมิตรใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจร โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2567 ซึ่งมีความสำคัญช่วยหนุนผลประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
รวมถึง บริษัทมีแผนจะขยายฐานลูกค้าเดิมและใหม่ในกลุ่ม CLM (กัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว) และอินโดนีเซีย ด้วยการสร้างช่องทางการสื่อสารเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งการมองหา”เอเจนซี่” ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทในอนาคต
“TRP ยกระดับจากธุรกิจคลินิก สู่โรงพยาบาลศัลยกรรมความงามเฉพาะใบหน้าแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นการสร้างความแข็งแรงแกร่งให้กับธุรกิจและยกระดับอุตสาหกรรมศัลยกรรมประเทศไทยสู่สากล เพื่อให้อุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามไทยสร้างชื่อและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศในอนาคต” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ กล่าว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรม ภายใต้ชื่อ "ธีรพรคลินิก" เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 192.56 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 27.20%
ในปี 2566 บริษัทมีต้นทุนทางการเงินลดลง 32.26% เนื่องจากคืนเงินกู้ยืมทั้งหมด 118 ล้านบาทในไตรมาส 4/2566 และจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับบริษัท
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 140 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74.44% ของกำไร โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 35.00 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดครึ่งหลังปี 2566 เพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นเงิน 105 ล้านบาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2567
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชลธิศ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการดำเนินงานในปี 2567 ว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 15-25% จากปี 2566 ด้วยกลยุทธ์หลัก การให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้ารุกการบริการผลิตภัณฑ์ดาวเด่น อย่าง TRP Programs นวัตกรรมเฉพาะของ TRP ที่ช่วยยกกระชับและคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้าอย่างเห็นผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึง Fat Stem Cell ซึ่งช่วยลดเรือนริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใสของใบหน้า และหาพันธมิตรใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจร โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2567 ซึ่งมีความสำคัญช่วยหนุนผลประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
รวมถึง บริษัทมีแผนจะขยายฐานลูกค้าเดิมและใหม่ในกลุ่ม CLM (กัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว) และอินโดนีเซีย ด้วยการสร้างช่องทางการสื่อสารเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งการมองหา”เอเจนซี่” ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทในอนาคต
“TRP ยกระดับจากธุรกิจคลินิก สู่โรงพยาบาลศัลยกรรมความงามเฉพาะใบหน้าแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นการสร้างความแข็งแรงแกร่งให้กับธุรกิจและยกระดับอุตสาหกรรมศัลยกรรมประเทศไทยสู่สากล เพื่อให้อุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามไทยสร้างชื่อและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศในอนาคต” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ กล่าว