บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป หรือ ICHI ลั่นเป้ารายได้พุ่ง 9,000 ล้านบาท หวังทำ All Time High อีกครั้งในปี 2567 เดินหน้าขยายตลาดจากกลุ่ม Non-Tea ลุยเปิดตัว "TAN POWER" Energy Drink ขวดแก้วราคา 10 บาท บุกตลาด TT ทั่วประเทศ แรงหนุนไตรมาส 1 อากาศร้อนเร็ว เร่งทำผลงานตั้งแต่ต้นปีต่อยอดผลประกอบการปี 2566 สูงสุดรอบ 13 ปี จนบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเพิ่มหุ้นละ 0.50 บาท/หุ้น รวมทั้งปี ICHI จ่ายปันผล 1 บาท/หุ้น
ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เผยภาพรวมปี 2567 วางเป้าหมายรายได้ 9,000 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับ 23% รับทิศทางตลาดชาพร้อมดื่ม (Ready To Drink) ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รุกตลาด Non-Tea เพื่อขยายพอร์ตเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มที่มีผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ครอบคลุมตามกลยุทธ์ 3N (New Product, New Market, New Business)
แนวโน้มไตรมาส 1/2567 มีทิศทางที่ดี จากปัจจัยบวกภาพรวมเศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่มีต่อเนื่อง และเอลนีโญส่งผลต่อสภาพอากาศร้อนเร็วเกินคาด แม้ว่าซีซั่นจะมีผลต่ออิชิตันน้อยลง เห็นได้จากไตรมาส 4 ปีที่แล้วทำนิวไฮในแง่ยอดขาย แต่สำหรับฤดูยิ่งร้อนที่มีเอลนีโญจะยิ่งเป็นแรงสนับสนุน อีกทั้งเดินหน้าขยายตลาดสินค้ากลุ่ม Non-Tea เช่น "ตันซันซู" เครื่องดื่มน้ำอัดลมสไตล์เกาหลี และ "น้ำด่าง อิชิตัน" ทำรายได้เสริมแกร่งภาพรวมผลการดำเนินงาน ไฮไลท์ไตรมาส 1 อยู่ที่การเปิดตัว "ตัน พาวเวอร์ (TAN POWER)" เครื่องดื่ม Energy Drink เสริมพอร์ต Non-Tea บรรจุขวดแก้วที่คุ้นเคย ราคา 10 บาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ชีวิตไม่มีทางตัน" ถอด DNA นักคิดสู้ชีวิต ทุกความสำเร็จ ต้องการทุ่มเท และเป็นกำลังใจให้กลุ่มคนสู้ชีวิต ด้วยรสชาติเข้มข้น สดชื่น มีส่วนผสมของวิตามินบีรวม วางกลยุทธ์จัดจำหน่ายผ่านช่องทางตลาดแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ที่มีการขยายตัวสูง ได้พันธมิตร ดีเคเอสเอช ประเทศไทย ดิสทริบิวเตอร์รายใหญ่กระจายสินค้าให้เข้าถึงทุกซอย ทุกชุมชน ทุกหมู่บ้านครอบคลุมทั่วประเทศ วางเป้าหมายยอดขาย 300 ล้านบาทในปีนี้
จากการดำเนินงานที่ดีสนับสนุนให้อิชิตันมีการใช้อัตรากำลังการผลิต (Utilization Rate) มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตั้งเป้าผลิตปี 2567 อย่างน้อย 100 ล้านขวด/เดือน ควบคู่ไปกับการเร่งติดตั้งไลน์การผลิตใหม่ มีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 200 ล้านขวด/ปี คาดจะเดินเครื่องได้ไตรมาส 4/2567 ซึ่งจะหนุนกำลังการผลิตรวมเป็น 1,700 ล้านขวด/ปี (จากปัจจุบัน 1,500 ล้านขวด/ปี) เป็นขุมกำลังแกร่งผลักดันสู่เป้าหมายยอดขาย 1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2568 เพื่อให้เครื่องจักรระบบ Automation ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ สนับสนุนให้เกิดการประหยัดต่อขนาด เป็นจุดแข็งของอิชิตันในการรักษาความสามารถในการทำกำไรต่อหน่วยในระดับที่ดี
สำหรับตลาดส่งออกคาดได้เห็นตลาดใหม่ๆ นอกเหนือจาก CLMV ตั้งเป้ายอดขายส่งออกอยู่ที่ 580 ล้านบาท ส่วนภาพรวมธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) บริษัทโฟกัสลูกค้ารายใหญ่ คือ แบรนด์ IF ซึ่งเป็นพันธมิตรรายสำคัญ โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้าต่อเนื่อง แต่ด้วยกำลังการผลิตที่เต็ม จึงวางเป้าหมายธุรกิจ OEM ใกล้เคียงเดิมที่ 130 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวดปี 2566 บริษัทฯ ทำรายได้ 8,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,340 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเกินเป้าหมาย โดยมีกำไรสุทธิ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงอยู่ที่ 23.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.7% จากสินค้าในเครืออิชิตันที่เติบโตในทุกเซกเมนท์
เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วสำหรับงวดวันที่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท คงเหลือเงินปันผลจ่ายสำหรับงวดวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิและกำไรสะสม กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567
ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เผยภาพรวมปี 2567 วางเป้าหมายรายได้ 9,000 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับ 23% รับทิศทางตลาดชาพร้อมดื่ม (Ready To Drink) ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รุกตลาด Non-Tea เพื่อขยายพอร์ตเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มที่มีผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ครอบคลุมตามกลยุทธ์ 3N (New Product, New Market, New Business)
แนวโน้มไตรมาส 1/2567 มีทิศทางที่ดี จากปัจจัยบวกภาพรวมเศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่มีต่อเนื่อง และเอลนีโญส่งผลต่อสภาพอากาศร้อนเร็วเกินคาด แม้ว่าซีซั่นจะมีผลต่ออิชิตันน้อยลง เห็นได้จากไตรมาส 4 ปีที่แล้วทำนิวไฮในแง่ยอดขาย แต่สำหรับฤดูยิ่งร้อนที่มีเอลนีโญจะยิ่งเป็นแรงสนับสนุน อีกทั้งเดินหน้าขยายตลาดสินค้ากลุ่ม Non-Tea เช่น "ตันซันซู" เครื่องดื่มน้ำอัดลมสไตล์เกาหลี และ "น้ำด่าง อิชิตัน" ทำรายได้เสริมแกร่งภาพรวมผลการดำเนินงาน ไฮไลท์ไตรมาส 1 อยู่ที่การเปิดตัว "ตัน พาวเวอร์ (TAN POWER)" เครื่องดื่ม Energy Drink เสริมพอร์ต Non-Tea บรรจุขวดแก้วที่คุ้นเคย ราคา 10 บาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ชีวิตไม่มีทางตัน" ถอด DNA นักคิดสู้ชีวิต ทุกความสำเร็จ ต้องการทุ่มเท และเป็นกำลังใจให้กลุ่มคนสู้ชีวิต ด้วยรสชาติเข้มข้น สดชื่น มีส่วนผสมของวิตามินบีรวม วางกลยุทธ์จัดจำหน่ายผ่านช่องทางตลาดแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ที่มีการขยายตัวสูง ได้พันธมิตร ดีเคเอสเอช ประเทศไทย ดิสทริบิวเตอร์รายใหญ่กระจายสินค้าให้เข้าถึงทุกซอย ทุกชุมชน ทุกหมู่บ้านครอบคลุมทั่วประเทศ วางเป้าหมายยอดขาย 300 ล้านบาทในปีนี้
จากการดำเนินงานที่ดีสนับสนุนให้อิชิตันมีการใช้อัตรากำลังการผลิต (Utilization Rate) มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตั้งเป้าผลิตปี 2567 อย่างน้อย 100 ล้านขวด/เดือน ควบคู่ไปกับการเร่งติดตั้งไลน์การผลิตใหม่ มีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 200 ล้านขวด/ปี คาดจะเดินเครื่องได้ไตรมาส 4/2567 ซึ่งจะหนุนกำลังการผลิตรวมเป็น 1,700 ล้านขวด/ปี (จากปัจจุบัน 1,500 ล้านขวด/ปี) เป็นขุมกำลังแกร่งผลักดันสู่เป้าหมายยอดขาย 1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2568 เพื่อให้เครื่องจักรระบบ Automation ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ สนับสนุนให้เกิดการประหยัดต่อขนาด เป็นจุดแข็งของอิชิตันในการรักษาความสามารถในการทำกำไรต่อหน่วยในระดับที่ดี
สำหรับตลาดส่งออกคาดได้เห็นตลาดใหม่ๆ นอกเหนือจาก CLMV ตั้งเป้ายอดขายส่งออกอยู่ที่ 580 ล้านบาท ส่วนภาพรวมธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) บริษัทโฟกัสลูกค้ารายใหญ่ คือ แบรนด์ IF ซึ่งเป็นพันธมิตรรายสำคัญ โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้าต่อเนื่อง แต่ด้วยกำลังการผลิตที่เต็ม จึงวางเป้าหมายธุรกิจ OEM ใกล้เคียงเดิมที่ 130 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวดปี 2566 บริษัทฯ ทำรายได้ 8,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,340 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเกินเป้าหมาย โดยมีกำไรสุทธิ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงอยู่ที่ 23.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.7% จากสินค้าในเครืออิชิตันที่เติบโตในทุกเซกเมนท์
เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วสำหรับงวดวันที่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท คงเหลือเงินปันผลจ่ายสำหรับงวดวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิและกำไรสะสม กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567