กรุงเทพประกันชีวิต ออกแบบประกันใหม่ “กรุงเทพ สุดคุ้ม” มอบความคุ้มครองรอบด้าน พร้อมสร้างเงินออมที่มั่นคงให้คนทุกเจน
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) เปิดเผยว่า การซื้อประกันชีวิตเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งสำหรับการวางแผนการเงิน ซึ่งควรพิจารณาเป้าหมายของตนเองตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน ไม่ว่าจะเพื่อสร้างครอบครัว, มีบุตร, เป็นทุนในการประกอบธุรกิจ จนถึงการวางแผนเพื่อใช้หลังเกษียณ อย่างไรก็ตาม การเลือกประกันชีวิต นอกจากคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ นอกจากการได้รับเงินคืนเมื่อครบสัญญาแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความสามารถในการเบิกค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ กรุงเทพประกันชีวิต จึงได้ออกแบบประกันสะสมทรัพย์ตัวใหม่ล่าสุด “กรุงเทพ สุดคุ้ม” ที่นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนการเงินได้ตามเป้าหมายแล้ว ยังมอบความคุ้มครองเพิ่มเติมด้านอุบัติเหตุ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกย่างก้าวของการดำเนินชีวิตจะได้รับความคุ้มครองรอบด้านเพื่อให้แผนการออมเงินไปสู่ความสำเร็จ โดยมีแบบประกันให้เลือกตามระยะเวลาที่ต้องการ 3 แบบ คือ กรุงเทพ สุดคุ้ม 15/9 , 18/12 และ 21/15 โดยรับประกันตั้งแต่อายุ 15 – 65 ปี ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุเพิ่มเติมไม่ว่าจะเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะและสายตา ตลอดจนค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ
สำหรับรายละเอียดของแบบประกัน กรุงเทพ สุดคุ้ม 15/9 มีระยะเวลาเอาประกันภัย 15 ปี ชำระเบี้ยประกันภัย 9 ปี เมื่อมีชีวิตจนครบสัญญารับเงินคืน 115% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง กรุงเทพ สุดคุ้ม 18/12 ระยะเวลาเอาประกันภัย 18 ปี ชำระเบี้ยประกันภัย 12 ปี รับเงินคืน 118 % ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง และ กรุงเทพ สุดคุ้ม 21/15 ระยะเวลาเอาประกันภัย 21 ปี ชำระเบี้ยประกันภัย 15 ปี รับเงินคืน 121% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง หากเสียชีวิตก่อนครบสัญญารับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย พร้อมกับ 115%, 118% หรือ 121% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง นอกจากนี้กรณีเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ รับเพิ่มอีก 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุ จ่ายตามค่าใช้จ่ายจริง สูงสุด 5 เท่าของเบี้ยประกันชีวิตรายเดือน (ต่อครั้งที่เข้ารักษา)
“กรุงเทพ สุดคุ้ม” เป็นแบบประกันที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน จากระยะเวลาคุ้มครองและระยะเวลาชำระเบี้ยประกันที่แตกต่างกันตามเป้าหมายของลูกค้าแต่ละราย โดยสามารถเลือกชำระได้ทั้งแบบรายเดือน, ราย 3 เดือน, ราย 6 เดือน จนถึงรายปี นอกจากนี้ ยังสามารถนำเบี้ยประกันมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลตามที่กรมสรรพากรกำหนดได้อีกด้วย
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) เปิดเผยว่า การซื้อประกันชีวิตเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งสำหรับการวางแผนการเงิน ซึ่งควรพิจารณาเป้าหมายของตนเองตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน ไม่ว่าจะเพื่อสร้างครอบครัว, มีบุตร, เป็นทุนในการประกอบธุรกิจ จนถึงการวางแผนเพื่อใช้หลังเกษียณ อย่างไรก็ตาม การเลือกประกันชีวิต นอกจากคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ นอกจากการได้รับเงินคืนเมื่อครบสัญญาแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความสามารถในการเบิกค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ กรุงเทพประกันชีวิต จึงได้ออกแบบประกันสะสมทรัพย์ตัวใหม่ล่าสุด “กรุงเทพ สุดคุ้ม” ที่นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าสามารถวางแผนการเงินได้ตามเป้าหมายแล้ว ยังมอบความคุ้มครองเพิ่มเติมด้านอุบัติเหตุ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกย่างก้าวของการดำเนินชีวิตจะได้รับความคุ้มครองรอบด้านเพื่อให้แผนการออมเงินไปสู่ความสำเร็จ โดยมีแบบประกันให้เลือกตามระยะเวลาที่ต้องการ 3 แบบ คือ กรุงเทพ สุดคุ้ม 15/9 , 18/12 และ 21/15 โดยรับประกันตั้งแต่อายุ 15 – 65 ปี ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุเพิ่มเติมไม่ว่าจะเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะและสายตา ตลอดจนค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ
สำหรับรายละเอียดของแบบประกัน กรุงเทพ สุดคุ้ม 15/9 มีระยะเวลาเอาประกันภัย 15 ปี ชำระเบี้ยประกันภัย 9 ปี เมื่อมีชีวิตจนครบสัญญารับเงินคืน 115% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง กรุงเทพ สุดคุ้ม 18/12 ระยะเวลาเอาประกันภัย 18 ปี ชำระเบี้ยประกันภัย 12 ปี รับเงินคืน 118 % ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง และ กรุงเทพ สุดคุ้ม 21/15 ระยะเวลาเอาประกันภัย 21 ปี ชำระเบี้ยประกันภัย 15 ปี รับเงินคืน 121% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง หากเสียชีวิตก่อนครบสัญญารับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย พร้อมกับ 115%, 118% หรือ 121% ของเบี้ยประกันชีวิตสะสมตามจริง นอกจากนี้กรณีเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ รับเพิ่มอีก 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุ จ่ายตามค่าใช้จ่ายจริง สูงสุด 5 เท่าของเบี้ยประกันชีวิตรายเดือน (ต่อครั้งที่เข้ารักษา)
“กรุงเทพ สุดคุ้ม” เป็นแบบประกันที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน จากระยะเวลาคุ้มครองและระยะเวลาชำระเบี้ยประกันที่แตกต่างกันตามเป้าหมายของลูกค้าแต่ละราย โดยสามารถเลือกชำระได้ทั้งแบบรายเดือน, ราย 3 เดือน, ราย 6 เดือน จนถึงรายปี นอกจากนี้ ยังสามารถนำเบี้ยประกันมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลตามที่กรมสรรพากรกำหนดได้อีกด้วย