Talk of The Town
กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO บอกเลิกสัญญาซื้อขาย-ซ่อมรถ NGV กับ“ขสมก” เหตุชำระเงินล่าช้า
05 มีนาคม 2567
คณะกรรมการบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ในฐานะสมาชิกของกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO (“กลุ่มร่วมทำงานฯ”) ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 ได้มีมติให้กลุ่มร่วมทำงานฯ บอกเลิก สัญญาซื้อขายและซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์ โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน กับ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ “ขสมก” ตามสัญญาเลขที่ ร.51/2560 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2560
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน กลุ่มร่วมทำงานฯ ประสบอุปสรรคในการดำเนินงานตามสัญญา อันเกิดจากหลาย ปัจจัยที่สำคัญจากคู่สัญญา โดยปัจจัยหลักที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ขสมก. ชำระเงินล่าช้า ทั้งนี้ บางงวดล่าช้ากว่า 3 เดือน ซึ่งกลุ่มร่วมทำงานฯ ได้มีหนังสือทวงถามและเรียกดอกเบี้ยล่าช้าดังกล่าวแต่ไม่ได้รับการเยียวยาหรือแก้ไขแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ ทำให้กลุ่มร่วมทำงานฯ ต้องหาแหล่งเงินทุนมาหมุนเวียนโครงการ ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ส่งผล กระทบให้การบริหารจัดการไม่เป็นไปตามแผน เช่น การจัดหาอะไหล่สำรอง การบริการงานซ่อม และแรงงานช่างไม่เพียงพอ เป็นต้น ทำให้ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามแผน และเกิดค่าปรับในมูลค่าที่สูงและกลุ่มร่วมทำงานฯได้แจ้งให้ ขสมก. แก้ไข แต่ ขสมก. กลับเพิกเฉย
คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาการบอกเลิกสัญญาดังกล่าวด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และระมัดระวังรักษา ผลประโยชน์ของบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญแล้วเห็นว่าเป็นรายการที่มีผลต่อการรับรู้ข้อมูล และรวมถึงการ ตัดสินใจลงทุนของผู้ถือหุ้น จึงกำหนดให้แจ้งข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการบอกเลิกสัญญานี้เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์ ได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ การยกเลิกสัญญาดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน กลุ่มร่วมทำงานฯ ประสบอุปสรรคในการดำเนินงานตามสัญญา อันเกิดจากหลาย ปัจจัยที่สำคัญจากคู่สัญญา โดยปัจจัยหลักที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ขสมก. ชำระเงินล่าช้า ทั้งนี้ บางงวดล่าช้ากว่า 3 เดือน ซึ่งกลุ่มร่วมทำงานฯ ได้มีหนังสือทวงถามและเรียกดอกเบี้ยล่าช้าดังกล่าวแต่ไม่ได้รับการเยียวยาหรือแก้ไขแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ ทำให้กลุ่มร่วมทำงานฯ ต้องหาแหล่งเงินทุนมาหมุนเวียนโครงการ ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ส่งผล กระทบให้การบริหารจัดการไม่เป็นไปตามแผน เช่น การจัดหาอะไหล่สำรอง การบริการงานซ่อม และแรงงานช่างไม่เพียงพอ เป็นต้น ทำให้ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามแผน และเกิดค่าปรับในมูลค่าที่สูงและกลุ่มร่วมทำงานฯได้แจ้งให้ ขสมก. แก้ไข แต่ ขสมก. กลับเพิกเฉย
คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาการบอกเลิกสัญญาดังกล่าวด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และระมัดระวังรักษา ผลประโยชน์ของบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญแล้วเห็นว่าเป็นรายการที่มีผลต่อการรับรู้ข้อมูล และรวมถึงการ ตัดสินใจลงทุนของผู้ถือหุ้น จึงกำหนดให้แจ้งข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการบอกเลิกสัญญานี้เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์ ได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ การยกเลิกสัญญาดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ