ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคม 2567 ท่ามกลางดัชนีปรับตัวลดลงโดยไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังจากที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยประกาศผลการดำเนินงานในปี 2566 ลดลง และการขึ้นเครื่องหมายXD ของหุ้นขนาดใหญ่ทำให้กดดันดัชนีปรับตัวลดลง
บล.ฟินันเซียไซรัส คาด SET Index จะยังแกว่งตัวทดสอบบริเวณ Low เดิมที่ 1,350+- จุด และต้องติดตามว่าจะยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ต่อเนื่องหรือไม่ บรรยากาศการลงทุนโดยรวมค่อนไปในทางลบจากฝั่งสหรัฐฯที่ปรับตัวร่วงแรงหลังจากบวกได้ต่อเนื่องแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้า ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ISM ภาคบริการเดือน ก.พ. ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย
ขณะที่โฟกัสตลาดในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้คือการแถลงของประธาน FED ต่อสภาคองเกรสช่วง 2 วันนี้ โดยตลาดคาดว่าจะยังคง Message เดิมคือไม่เร่งรีบในการลดดอกเบี้ย รวมถึงรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรคืนวันศุกร์ ส่วนปัจจัยในประเทศยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ออกมาต่ำกว่าคาดในส่วนของ Core CPI ที่ +0.43% y-y ทำให้ตลาดยังคาดหวังการลดดอกเบี้ยของกนง.ในระยะถัดไปเรายังคงมองว่าดัชนีมีโอกาสที่จะทรงตัวไม่หลุด Low 1,350 จุด ได้จากทั้งเศรษฐกิจไทยและกำไรบจ.ที่คาดว่า Bottom แล้วในปี 2023 ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวใน 2024 ขณะที่ช่วงปลายเดือน
กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่แนวโน้มกำไรปี 2024 แข็งแกร่งและเทรด PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid // ถือลงทุนหลังสะสมหุ้นเพิ่มบริเวณ 1,350 จุด
ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ล่าสุด ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 พบว่า “ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา” นักลงทุนรายใหญ่ และบุตรสาว “พิชญ์สินี เสรีวิวัฒนา”ได้ทยอยลดสัดส่วนการถือครองหุ้นลง ล่าสุด “ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา” จำนวน 15,970,314 หุ้นคิดเป็น 1.09% จากเดิมที่เคยถือหุ้นจำนวน 26,961,014 หุ้นคิดเป็น 1.85% ขณะที่ พิชญ์สินี เสรีวิวัฒนา ล่าสุดถือหุ้นจำนวน 14,184,569 หุ้นคิดเป็น 0.97% จากเดิมที่เคยถือหุ้นจำนวน 16,125,569หุ้น คิดเป็น 1.10%
นอกจากนี้หากพิจารณาลงลึกไปอีกยังพบว่า การถือครองหุ้น JMT ล่าสุดของ “ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา” มีสัดส่วนการถือครองหุ้นที่ต่ำสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2561 ได้มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
วันที่ถือครอง |
จำนวน(ล้านหุ้น) | % ถือหุ้น |
---|---|---|
27/02/2567 | 15.97 | 1.09 |
25/08/2566 | 26.96 | 1.85 |
25/08/2565 | 27.98 | 1.92 |
8/11/2564 | 34.33 | 3.05 |
10/11/2563 | 34.29 | 3.51 |
27/11/2562 | 29.2 | 3.29 |
28/08/2561 | 31.63 | 3.56 |
สำหรับการลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า แม้ผลการดำเนินงานในงวดปี 2566 JMTจะสามารถทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งมีการประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.49 บาทต่อหุ้น ขณะเดียวกันยังสวนทางกับคำแนะนำของโบรกเกอร์ที่ยังแนะนำให้ซื้อลงทุน
โดย บล.บัวหลวงประเมินว่า หุ้นJMT รายงานกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 540 ล้านบาท (เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด) โดยเป็นการเพิ่มขึ้น 10% YoY และ 16% QoQ จากธุรกิจบริหารหนี้ที่ไม่มีหลักประกันเติบโต หนุนการจัดเก็บเงินสดเพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC ก็ปรับเพิ่มขึ้นถึง 157% YoY และ 41% QoQ แนวโน้ม 1Q24 คาดกำไรเติบโต 10% YoY (การจัดเก็บหนี้ที่ซื้อมาในปี 2023 ได้มากขึ้น) แต่ลดลง 7% QoQ (ตามฤดูกาล) ทั้งนี้ JMT ประกาศปันผลงวด 2H23 ที่ 0.49 บาท คิดเป็น dividend yield ที่ 2.2% ขึ้น XD วันที่ 11 เม.ย. 24 เรายังคงแนะนำซื้อ จากธุรกิจบริหารหนี้ที่ไม่มีหลักประกันยังดีต่อเนื่องในปี 2024
ขณะเดียวกัน “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ได้ประเมินภาพรวมไตรมาส 1/2567 สัญญาณดี รับ 3 ปัจจัยบวกสนับสนุนจากบริษัทในกลุ่ม นำโดย
บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) มีการทยอยซื้อหนี้เข้ามาบริหารต่อเนื่องจากปี 2566 มีพอร์ตหนี้รวมกว่า 514,935 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงโค้งแรกของปีมองการจัดเก็บกระแสเงินสดอยู่ในระดับทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 4/2566 ที่ผ่านมาและมั่นใจว่าจะเติบโตจากปี 2566 มองทิศทางธุรกิจของ JMT ไตรมาส 1/2567 ยังคงสดใส เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ยังได้แรงสนับสนุนจาก สุกี้ตี๋น้อย (TEENOI) ภายใต้ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด นับเป็นร้านสุกี้มหาชนที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างท้วมท้น โดย JMART เข้าไปลงทุนในสัดส่วน 30% โดยเตรียมเปิดสาขาที่ 59 ศาลายา One ตามแผน ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ ตอบรับดีมานด์ผู้บริโภคในหัวเมืองสำคัญที่มีอีกมาก
ในส่วนของ เจมาร์ท โมบาย (JMB) ซึ่งเป็นธุรกิจแกนของบริษัท ที่มีกระแสตอบรับยอดขายที่ดีมาก จากการเปิดตัว Samsung Galaxy S24 Series กวาดยอดขายไปกว่า 400 ล้านบาทในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา โดย Samsung Galaxy S24 Series นับเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่สุดล้ำ กับ AI Phone รวมถึง สมาร์ทโฟน แบรนด์ชั้นนำที่ทยอยเปิดตัวสินค้ารุ่นเรือธงออกมาเช่นกัน โดยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางร้านเจมาร์ทกว่า 300 สาขา พร้อมด้วยบริการสินเชื่อ Samsung Finance+ และประกันที่ดีที่สุดที่เจมาร์ทมอบให้ นอกจากนี้ ยังได้รับอานิสงส์จากมาตรการ “EASY E-RECEIPT” ผลักดันภาพรวมยอดขายในไตรมาส 1/2567 เติบโตขึ้นอีกด้วย
สำหรับพอร์ตลงทุนของ “ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา” ปัจจุบันถือครองหุ้น 8 บริษัท ดังนี้
หุ้น |
จำนวน(หุ้น) | %การถือครอง |
---|---|---|
ASN | 5,756,100 | 3.07 |
CHAYO | 72,676,971 | 6.39 |
JMT | 15,970,314 | 1.09 |
KLINIQ | 10,399,682 | 4.73 |
MANRIN | 758,600 | 2.82 |
MASTER | 3,173,800 | 1.32 |
THREL | 15,552,400 | 2.59 |
TRP | 12,066,600 | 3.45 |