จิปาถะ

YLG ชี้ทองครึ่งปีหลังมีลุ้นแตะ 2,300 ดอลลาร์ เทรนด์ยังเป็นขาขึ้นอีก 3 ปี


07 มีนาคม 2567
YLG เผย 4 ปัจจัยหนุนทองคำทำสถิติใหม่ราคาปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ 2,160 ดอลลาร์ จากต้นปีปรับขึ้นมาแล้วกว่า 4.5% มองปีนี้ภาพใหญ่ยังสดใสไปได้ต่อ ครึ่งปีหลังมีลุ้นทำสถิติใหม่ที่ 2,300 ดอลลาร์ เชื่อเทรนด์ยังเป็นขาขึ้นไปอีก 2-3 ปี

YLG ชี้ทองครึ่งปีหลังมีลุ้นแตะ 2,300 ดอลลาร์.jpg

วันที่ 7 มีนาคม 2567 นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติกาลครั้งใหม่ที่ระดับ 2,160 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ส่งผลให้นับจากต้นปีราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วกว่า 4.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมาอย่างน่าสนใจในรอบนี้เกิดขึ้นนับตั้งแต่ก้าวสู่เดือนมีนาคม เนื่องจากได้รับแรงหนุนหลายปัจจัย ดังนี้

ตลาดแตก “ซูซูกิ” หั่นราคา CIAZ คันละ 1.5 แสน 700 คันขายเกลี้ยงโลตัส ออกหุ้นกู้ 4 รุ่น ขายประชาชนทั่วไป ชูอันดับความน่าเชื่อถือ A+LH Bank หนุนคนรุ่นใหม่ออมเงิน ชูเงินฝากดอกเบี้ยสูง 5.55% ต่อปี

1.นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากที่แม้ว่าช่วงก่อนนี้นักลงทุนจะลดความหวังในการลดดอกเบี้ยของเฟด จากมากสุดที่ 6 ครั้ง ลดลงมาอยู่ที่โซน 3-4 ครั้ง จึงเกิดแรงขายทองคำออกมา อย่างไรก็ดี ตลาดได้ซึมซับปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว ราคาทองคำจึงเริ่มฟื้นตัว อีกทั้งยังเริ่มมีความกังวลต่อภาคการจ้างงานที่ลดลง จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำกลับมาเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก

2.ธนาคารกลางทั่วโลกที่ถือครองทองคำมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ธนาคารกลางทั่วโลกได้เข้าซื้อทองคำกว่า 1,000 ตันต่อปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่จะมีการเข้าซื้อที่ประมาณ 400-600 ตันต่อปี

3.ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งนำไปสู่กระแส “De-Dollarization” หรือการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐที่ใช้เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือใช้ในการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้ความต้องการทองคำมีมากขึ้น

4.ทองคำได้ทรานส์ฟอร์มจากสินทรัพย์ทางกายภาพ สู่การเก็งกำไรในโลกดิจิทัล ส่งผลให้เกิดแรงซื้อจากนักลงทุนใหม่เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะนับตั้งแต่การเกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ หลังจากที่ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ในระยะสั้น อาจจะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา แต่ภาพของทองคำในระยะยาวของปี 2567 ทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยเป้าหมายใหญ่ของทั้งปี YLG ยังคงให้ไว้ที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เนื่องจากในครึ่งปีหลังเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง และตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะดำเนินนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไปต่อเนื่อง 2-3 ปี ดังนั้น ภาพใหญ่ 2-3 ปี ทองคำจึงยังคงเป็นบวก

ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% เดินหน้าทำระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทำระดับสูงสุดใหม่ที่ระดับ 36,350 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งนอกจากจะได้รับปัจจัยหนุนเช่นเดียวกับทองคำในตลาดโลก แล้ว ยังได้รับอานิสงส์มาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอยู่ใกล้โซน 36 บาท

ทองคำซึมต่อ หลังเฟดตรึงดอกเบี้ยสูง แนะถือยาวรอทำกำไรครึ่งปีหลัง
ทองแพงสุดทะลุ 36,000 บาท ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยหนุนราคาทะยานต่อ
แนวโน้มราคาทองวันนี้ (6 มี.ค. 67) บทวิเคราะห์โดย YLG Bullion
YLG