บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดดัชนีฟื้นตามกรอบ 1365-1380 จุด หลังตลาดตีความเชิงบวกต่อการส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยฯของ 2 ธนาคารกลางหลัก เริ่มจากการประชุม ECB ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.5% โดยประธาน ECB ส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยจะขึ้นกับข้อมูลเป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ECB ปรับลดเป้าเงินเฟ้อปี 67 มาที่ 2.3% และเข้าสู่เป้าหมายปี 68 ที่ 2% ทำให้ตลาดคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยจะเกิดครั้งแรกในเดือน มิ.ย.67 ขณะที่การส่งสัญญาณของประธาน FED ต่อวุฒิสภา ระบุว่า FED เชื่อว่าเงินเฟ้อกำลังลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ซึ่งจะทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีความเป็นไปได้ คาดว่าการลดดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดในเดือน มิ.ย.67
จากสภาพแวดล้อมข้างต้น บล.เมย์แบงก์ มองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงเปิดตลาด โดยเช้านี้เงินบาทที่แข็งค่ามาที่ 35.5 บาท/USD เป็นบวกต่อ Fund Flow มากขึ้น กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและกำไรปี 67 เติบโต ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 1.61 จุด แต่นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิ 2.55 พันล้านบาท กลุ่มที่ขึ้นหนุนตลาดคือ ICT ปรับขึ้น +1.9% (ADVANC +2.4% TRUE +1.4%) วานนี้เรามีออกบทวิเคราะห์ถึงโอกาสที่กลุ่มจะถูก Re-Rating ขึ้น ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กดดันจาก DELTA -1.5% และกลุ่มโรงกลั่น SPRC -3.85% TOP -3.81% จากค่าการกลั่นที่ปรับลง
ATO Daily Stock Picks
HTC (อุณหภูมิยิ่งสูง ยิ่งหนุนรายได้ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.00 บาท)
▪ ผลประกอบการ ปี 67 ยังมีแนวโน้มขยายตัวจากรายได้ที่ทางบริษัทตั้งเป้าเติบโต 6-8% หนุนจากการออกสินค้าใหม่ การเพิ่มความหลากหลายขนาดสินค้าและช่องทางการจาหน่าย ขณะที่ GPM ในปี 2567 คาดดีขึ้นจากการปรับลดต้นทุน โดยหนึ่งในกลยุทธ์คือการเพิ่มกำลังการผลิตของขวดแก้ว (เริ่มผลิต 4Q67) ที่สามารถ reuse ส่งผลบวกต่อกำไรขั้นต้นดีขึ้นในระยะยาว
▪ 1Q67 แนวโน้มกำไรมีโอกาสลดลง YoY จากฐานสูงปีก่อน แต่จะขยายตัว QoQ เรามอง Upside ที่เกิดขึ้นมาจากการท่องเที่ยวภาคใต้และฤดูร้อนปีนี้จะร้อนกว่าปกติ หนุนความต้องการบริโภค ราคาหุ้นซื้อขายบน PER 67E ที่ +/-10 เท่า (ต่ำกว่ากลุ่มเครื่องดื่ม ICHI 19 เท่า SAPPE 23 เท่า)
.