Mr.Data
แนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกยังคงสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดในวันที่ 7 มี.ค.2567 ราคาทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,168.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาย้อนหลัง 1 ปี ต่ำสุดอยู่ที่ 1,815.4 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาขายปลีกทองในประเทศ (96.5) เช้านี้ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 ครั้ง รวม 300 บาท ทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.06 น. ทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 36,050 ขายออกบาททองคำละ 36,150 ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 35,398.60 ขายออกบาททองคำละ 36,650
หลังจากนั้นทยอยปรับขึ้นอีก 2 ครั้งๆ ละ 50 บาท ทำให้เมื่อเวลา 09.56 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 36,150 ขายออกบาททองคำละ 36,250 ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 35,504.72 ขายออกบาททองคำละ 36,750
“ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงสู่ All-Time High จากแรงหนุนเงินดอลลาร์อ่อนค่า และประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรส คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ยังไม่ได้ระบุเมื่อใด เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะทำให้เฟดมีความเสี่ยงต่อการพ่ายแพ้ในการทำสงครามกับเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนยังคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 4.03 ตัน”บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า
ส่วนในประเทศเงินบาทเริ่มกลับทิศทางแข็งค่า กดดันราคาทองคำแท่งในประเทศ อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาทองคำ spot ดีดขึ้นแรงกว่า จึงอาจทำให้ราคาทองคำแท่งในประเทศทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time high) รอบใหม่
ขณะที่ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ มองว่า การปรับขึ้นของราคาทองในช่วงนี้ข้อเท็จจริงไม่ได้มีข่าวอะไรที่น่าตื่นเต้นที่จะมาหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นมาแรงขนาดนี้ จนมีการคาดการณ์กันไปว่าจะขยับขึ้นไปถึงบาทละ 4 หมื่นบาท นอกจากข่าวแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งคิดว่าไม่ใช่เดือนนี้ น่าจะเป็นช่วงไตรมาสที่ 2 มากกว่า
“ราคาทองขึ้นสูงน่าจะมาจากพวกกองทุนต่างๆ ที่ถือโอกาสสร้างกระแสเข้ามาเก็งกำไร ผมจึงอยากให้ทุกคนระมัดระวัง มันขึ้นแรงก็อาจตกแรง”
นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวอีกว่า ในระยะยาวหากเฟดปรับลดดอกเบี้ย ทองจะมีโอกาสขึ้นประมาณบาทละ 38,000 ในปี 2567 แต่จะถึง 40,000 บาท/บาททองคำ เป็นราคาที่ไกลเกินไปที่จะปรับขึ้นถึง
แนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกยังคงสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดในวันที่ 7 มี.ค.2567 ราคาทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,168.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาย้อนหลัง 1 ปี ต่ำสุดอยู่ที่ 1,815.4 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาขายปลีกทองในประเทศ (96.5) เช้านี้ทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 ครั้ง รวม 300 บาท ทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยเปิดตลาดเมื่อเวลา 09.06 น. ทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 36,050 ขายออกบาททองคำละ 36,150 ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 35,398.60 ขายออกบาททองคำละ 36,650
หลังจากนั้นทยอยปรับขึ้นอีก 2 ครั้งๆ ละ 50 บาท ทำให้เมื่อเวลา 09.56 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 36,150 ขายออกบาททองคำละ 36,250 ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 35,504.72 ขายออกบาททองคำละ 36,750
“ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงสู่ All-Time High จากแรงหนุนเงินดอลลาร์อ่อนค่า และประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรส คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ยังไม่ได้ระบุเมื่อใด เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะทำให้เฟดมีความเสี่ยงต่อการพ่ายแพ้ในการทำสงครามกับเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนยังคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 4.03 ตัน”บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า
ส่วนในประเทศเงินบาทเริ่มกลับทิศทางแข็งค่า กดดันราคาทองคำแท่งในประเทศ อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาทองคำ spot ดีดขึ้นแรงกว่า จึงอาจทำให้ราคาทองคำแท่งในประเทศทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time high) รอบใหม่
ขณะที่ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ มองว่า การปรับขึ้นของราคาทองในช่วงนี้ข้อเท็จจริงไม่ได้มีข่าวอะไรที่น่าตื่นเต้นที่จะมาหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นมาแรงขนาดนี้ จนมีการคาดการณ์กันไปว่าจะขยับขึ้นไปถึงบาทละ 4 หมื่นบาท นอกจากข่าวแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งคิดว่าไม่ใช่เดือนนี้ น่าจะเป็นช่วงไตรมาสที่ 2 มากกว่า
“ราคาทองขึ้นสูงน่าจะมาจากพวกกองทุนต่างๆ ที่ถือโอกาสสร้างกระแสเข้ามาเก็งกำไร ผมจึงอยากให้ทุกคนระมัดระวัง มันขึ้นแรงก็อาจตกแรง”
นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวอีกว่า ในระยะยาวหากเฟดปรับลดดอกเบี้ย ทองจะมีโอกาสขึ้นประมาณบาทละ 38,000 ในปี 2567 แต่จะถึง 40,000 บาท/บาททองคำ เป็นราคาที่ไกลเกินไปที่จะปรับขึ้นถึง