ราคาหุ้นของ DELTA ปรับขึ้นไปแตะ 70.50 บาท ในการเปิดตลาดภาคเช้า แม้นักวิเคราะห์จากหลายสำนักอาจมองสวนทาง โดยนักวิเคราะห์จาก บล.เมแบงก์ ระบุในบทวิเคาะห์ว่า ภาวะโดยรวมของตลาด EV ทั่วโลกอาจจะชะลอตัวลงในระยะสั้น ในขณะที่บริษัทจะต้องจ่ายค่าloyalty fee ให้ DELTA Taiwanเพิ่มขึ้น
ดังนั้น เบล.เมย์แบงก์ จึงปรับลดประมาณการกําไรของ DELTA ในปี 2024 ลง4%ซึ่งทําให้แนวโน้มการเติบโตของบริษัทที่ 14% ไม่สอดคล้องกับ P/E ในปัจจุบันที่ 43xดังนั้น เราจึงปรับลดคําแนะนําหุ้น DELTAจากถือเป็นขาย โดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 55บาทแนวโน้มทรง ๆ ใน 1Q24 แต่คาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยใน 2Q24เราเป็นห่วงแนวโน้มระยะสั้นของตลาด EV (30%ของรายได้ DELTA)โดยเฉพาะในสหรัฐ และ ยุโรป เนื่องจากปริมาณยอดขายรถในช่วง 1Q มักจะอ่อนแอที่สุดในรอบปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดดันให้กําไรของ DELTAใน 1Q24 ทรงตัว qoq สําหรับแนวโน้มใน 2Q24เราคาดว่าผลประกอบการน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง จากอุปสงค์ EV หลังจากที่ผ่านช่วง low seasonไปแล้ว โดยการเติบโตของสินค้า power supply (30% ของรายได้) ก็น่าจะชะลอตัวลงเช่นกัน เพราะลูกค้าระมัดระวังกับการใช้จ่าย จากความกังวลเกี่ยวภาวะเศรษฐกิจโลกปรับลดประมาณการกําไรปี FY24Fลง4%เราปรับลดประมาณการกําไรสุทธิของ DELTA ในปี2024 ลง4% เหลือ 1.95หมื่นล้านบาท
เรามองว่าการเติบโตของกําไรปี 2024จะน่าสนใจน้อยลง โดยคาดว่าจะโตได้เพียง 14% yoyดังนั้น เราจึงคิดว่า P/E ของDELTAในปัจจุบันที่43x ไม่สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตในปี 2024หรือแม้แต่ในปี 2025 ดังนั้นแนะนําจากถือเป็นขาย และปรับลดราคาเป้าหมายจาก 83 บาท เหลือ 55 บาท เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตที่ไม่น่าตื่นเต้น โดยราคาเป้าหมายของเราอิงจาก P/E ที่35x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -0.5S.D.)