ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ ประเมิน SET Index วันนี้แกว่งขึ้นต่อ...หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นค่อนข้างดี (ตามคาด) หนุนโดยฟันด์โฟลว์ต่างชาติและแรงซื้อจากฝั่งสถาบันภายในประเทศที่เข้ามาพร้อมกัน ขณะที่ความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของทั้งฝั่งสหรัฐฯ และไทย หนุนหุ้นที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย (interest rate sensitive)… ขณะที่ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดเป็นกลาง i) (0/-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐาน ตามแรงขายในหุ้นกลุ่ม technology หลังจากนักลงทุนส่วนหนึ่งมีความกังวลมากขึ้นต่อระดับ valuations ของหุ้นกลุ่มนี้ ผนวกกับมีกระแสการเปลี่ยนกลับไปลงทุนในหุ้น non-tech ซึ่งน่าจะฟื้นตัวได้ตามภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เติบโตดีกว่าคาด...ประเด็นดังกล่าวอาจกดดันหุ้นอิเลกโทรนิกส์ในไทยบ้าง ii) (+) ฟันด์โฟลว์ตลาดหุ้นไทยน่าจะยังดูดี หลังจากตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.9% หนุนให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า และหนุนเงินบาทแข็งค่าต่อเช้าวันนี้
ทั้งนี้ปัจจัยถัดไปที่น่าจะมีผลต่อตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ได้แก่ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ ซึ่ง consensus คาดว่า core CPI จะชะลอตัวสู่ 3.7% YoY จากระดับ 3.9% YoY ในเดือน ม.ค.
CK (เป้า Consensus 26.39 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมิน แนวรับ 23.5 บาท / แนวต้าน 24.0-24.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 25 บาท (Trailing stop 23.1 บาท)
2) Sentiment บวกจากเงินงบประมาณฯภาครัฐเตรียมเร่งอัดฉีดเราประเมินภาครัฐฯ เตรียมเร่งอัดฉีดเงินงบประมาณฯที่ล่าช้าภายใน เม.ย. นี้ และคาดจะเร่งพิจารณา พรบ งบฯปี 2568 ต่อ และคาดผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีความพร้อมด้านฐานเงินทุนอย่าง CK จะได้เปรียบ
3) Valuation ยังไม่แพง ทั้งในด้าน PE PBV และ Sum of the parts Forward PE +/-21 เท่า (คาดกา ไรปีนี้โต +25% YoY) PBV 1.58 เท่า ใกล้เคียง +1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต และหากพิจารณามูลค่าของ บ.ลูก (BEM, CKP, TTW) รวมกันตามสัดส่วนถือหุ้นมูลค่าหุ้น CK ยัง Discount อยู่ราว -30%
NER (เป้า Consensus 6.53 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมินแนวรับ 5.75 บาท / แนวต้าน 6.0-6.1 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 6.3 บาท (Stop loss 5.6 บาท)
2) อุตสาหกรรมยางพาราไทยมีประเด็นบวกทั้งระยะสั้น - ยาว เราประเมินระยะสั้นราคายางพาราปรับสูงขึ้นต่อเนื่องผลจากปรากฏการณ์ El Nino / ระยะยาวคาดผลจากมาตรฐานยางพาราใหม่ EUDR (มาตรฐานยุโรป) ที่จะเริ่มใช้ใน 2H67 จะหนุนให้ยางพาราไทยที่ผ่านมาตรฐานฯ ขายได้ในราคาที่ Premium ขึ้น
3) Valuation ถูก แถมพ่วงปันผล + Warrant ฟรี Forward PE ต่ำเพียง 6.2 เท่า ขณะที่ Consensus คาดกำไรปีนี้โต +11.3% YoY (คาดมี Upside) และปันผล 0.29 บาท/หุ้น (yield 5%) + แจก Warrant ฟรี NER-W2 (XD XW วันที่ 22 เม.ย.)
CRC (เป้า Consensus 44.92 บาท)
1) มุมมองด้านเทคนิค ประเมินแนวรับ 36 บาท / แนวต้าน 37-38.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 40 บาท (Stop loss 34.5 บาท)
2) คาด SSSG เริ่มฟื้นตัว เราประเมินอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sales growth: SSSG) จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศ (อิตาลี + เวียดนาม ฟื้นตัวดี) ขณะที่ในไทยความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ม.หอการค้าไทย) เดือน ก.พ. ฟื้นตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 แล้ว และสูงสุดในรอบ 48 เดือน + คาดจะได้แรงหนุนจากการเร่งอัดฉีดเงินงบประมาณภาครัฐฯในเดือน เม.ย.
3) Valuation ถูก Forward PE ล่าสุด 23.5 เท่า ลงมาใกล้เคียง -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ราว 23 เท่า ขณะที่ Consensus คาดกาไรโต +30% YoY เป็น +9 พันล้านบาท