ตลาดหุ้นไทยตอนนี้จะว่าดีก็ดี ด้วยเหตุผลว่ามีของถูกๆ ให้เลือกเยอะแม้กระทั่งหุ้นพื้นฐานใช้ได้สภาพคล่องดีๆ ใน SET50 ก็ยังน่าสนใจในแง่อัตราปันผลเทียบราคาหุ้นหลายตัว แต่ในอีกมุมมองอีกด้านหนึ่งตลาดหุ้นไทยถือว่าแย่ด้วยกำลังซื้อขายต่อวันที่เบาบาง แถมหุ้นก็ขึ้นได้ไม่ยาวทรงในภาพรวมพร้อมพักฐานได้เสมอ
![TOT แนวนอน คัดหุ้น SET50 ยิลด์ดี_0.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/130324/TOT%20%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%20%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%20SET50%20%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B5_0.jpg)
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาเฉพาะ SET50 นับได้ว่าราคาหุ้นรายตัวในกลุ่มนี้ ณ สิ้นวันที่ 12 มีนาคม 2024 เทียบกับราคาปิดสิ้นปี 2023 ก็มีถึง 18 หุ้นที่สามารถยืนบวกได้ ขณะที่ตัวที่ปันผลดีๆ โดยเทียบกับราคาปิด (% ยิลด์) ตัวที่สูงที่สุดในสมาชิก SET50 ปัจจุบันคือ SCB ที่ค่ามากกว่า 9% และหากนับรวมตัวอื่นๆ ที่ยิลด์มีค่ามากกว่า 5 % จะมีอีก 15 ตัวได้แก่ OSP, TISCO, BANPU, LH, PTTEP, TOP, BTS, PTT, TTB, RATCH, KTB, EGCO, KBANK , TLI และ BBL
ทว่าจากชื่อหุ้นข้างต้นนี้มีเพียงไม่กี่ตัวที่มีคุณสมบัติให้ยิลด์ดีและอยู่รอดมีค่าราคาเป็นบวกได้
![1710301168192@2x.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/130324/1710301168192%402x.jpg)
พบว่าหุ้นที่ ดูดีที่สุดก็ยังเป็น SCB ที่คนถือยาวหลายเดือนสามารถยิ้มได้เต็มที่ ส่วนอันดับสองในตารางอย่าง TISCO แม้จะให้ยิลด์ดีราว 7-8% แต่ราคาหุ้นเฉียดจะไม่บวกแล้ว อีกตัวที่น่าสนใจตามเงื่อนไขนี้คือ TTB ให้ยิลด์ 5-6% ภายใต้ทรงราคาบวกที่แรงได้ถึง 9.58%
ทั้งหลายทั้งปวงต้องย้ำเช่นเคยว่า ข้อมูลสถิติเป็นภาพที่ผ่านมาแล้ว คงใช้แค่ประกอบการตัดสินใจเลือกหุ้นเพื่อลงทุนได้ แต่มิอาจทำนายอนาคตผลตอบแทนการลงทุนได้ และขอให้นักลงทุนที่รักโปรดจงระลึกให้ขึ้นใจก่อนตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์เสี่ยงใดๆ ในสากลโลกเสมอว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน"
![TOT แนวนอน คัดหุ้น SET50 ยิลด์ดี_0.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/130324/TOT%20%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%20%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%20SET50%20%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B5_0.jpg)
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาเฉพาะ SET50 นับได้ว่าราคาหุ้นรายตัวในกลุ่มนี้ ณ สิ้นวันที่ 12 มีนาคม 2024 เทียบกับราคาปิดสิ้นปี 2023 ก็มีถึง 18 หุ้นที่สามารถยืนบวกได้ ขณะที่ตัวที่ปันผลดีๆ โดยเทียบกับราคาปิด (% ยิลด์) ตัวที่สูงที่สุดในสมาชิก SET50 ปัจจุบันคือ SCB ที่ค่ามากกว่า 9% และหากนับรวมตัวอื่นๆ ที่ยิลด์มีค่ามากกว่า 5 % จะมีอีก 15 ตัวได้แก่ OSP, TISCO, BANPU, LH, PTTEP, TOP, BTS, PTT, TTB, RATCH, KTB, EGCO, KBANK , TLI และ BBL
ทว่าจากชื่อหุ้นข้างต้นนี้มีเพียงไม่กี่ตัวที่มีคุณสมบัติให้ยิลด์ดีและอยู่รอดมีค่าราคาเป็นบวกได้
![1710301168192@2x.jpg](https://www.share2trade.com/storage/News%20Today/2024/130324/1710301168192%402x.jpg)
พบว่าหุ้นที่ ดูดีที่สุดก็ยังเป็น SCB ที่คนถือยาวหลายเดือนสามารถยิ้มได้เต็มที่ ส่วนอันดับสองในตารางอย่าง TISCO แม้จะให้ยิลด์ดีราว 7-8% แต่ราคาหุ้นเฉียดจะไม่บวกแล้ว อีกตัวที่น่าสนใจตามเงื่อนไขนี้คือ TTB ให้ยิลด์ 5-6% ภายใต้ทรงราคาบวกที่แรงได้ถึง 9.58%
ทั้งหลายทั้งปวงต้องย้ำเช่นเคยว่า ข้อมูลสถิติเป็นภาพที่ผ่านมาแล้ว คงใช้แค่ประกอบการตัดสินใจเลือกหุ้นเพื่อลงทุนได้ แต่มิอาจทำนายอนาคตผลตอบแทนการลงทุนได้ และขอให้นักลงทุนที่รักโปรดจงระลึกให้ขึ้นใจก่อนตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์เสี่ยงใดๆ ในสากลโลกเสมอว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน"