กระแสความนิยมของสินทรัพย์ดิจิทัลดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ Bitcoin Spot ETF ได้รับการอนุมัติ ไปเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีเม็ดเงินไหลเข้ามาเพื่อซื้อ Bitcoin เป็นจำนวนมาก ซึ่งเหรียญอื่นที่ ได้รับความสนใจไม่แพ้กันเลยนั้นก็คือ Ethereum ที่กองทุนดังก็จะมีการยื่นขอเปิด Spot ETF เช่นกัน
แต่ก่อนที่จะถึง Deadline การตัดสินเรื่อง Spot Ethereum ETF ในวันที่ 13 มีนาคม 2024 ที่จะถึงนี้จะ มีการอัปเกรดครั้งสำคัญของ Ethereum ที่ชื่อว่า “Dencun” หรือ Ethereum Improvement Proposal 4844 (EIP-4844) ที่จะเข้ามาช่วยเรื่องการลดค่าธรรมเนียมบนเลเยอร์ 2 ของ Ethereum ที่ทำให้ค่าธรรมเนียมถูกลง อย่างมาก
EIP-4844 คืออะไร?
โดยปกติแล้ว Ethereum จะแยกการประมวลผลธุรกรรมส่วนใหญ่ไปให้เลเยอร์ 2 แล้วจะทำการบันทึก ข้อมูลกลับไปที่ Ethereum เพื่อที่จะลดค่าธรรมเนียม และทำให้สามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากได้ โดย EIP-4844 จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้รองรับธุรกรรมได้มาก ขึ้นและลดต้นทุนในการทำธุรกรรม โดยจะทำให้ค่าธรรมเนียมบนเลเยอร์ 2 จะถูกลงถึง 10-100 เท่าเลยทีเดียว
การอัปเกรดครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรบ้าง?
โดยปกติแล้วค่าธรรมเนียมที่เราทำธุรกรรมบนเลเยอร์ 2 จะแบ่งเป็น 2 ส่วน แต่มากกว่า 90% จะเป็น ค่าใช้จ่ายในการบันทึกข้อมูลบน Ethereum ซึ่งหลังจากการอัปเกรด EIP-4844 ที่จะมาในวันที่ 13 มีนาคม นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่บันทึกข้อมูลลงบน Ethereum
จากข้อมูลด้านล่างจะสังเกตเห็นว่า อัตราการทำกำไรที่เลเยอร์ 2 ทั้งหมดสามารถทำได้เฉลี่ยอยู่ที่ประ มาณ 10-20% ซึ่งหลังจากการอัปเกรดนี้เสร็จแล้วคาดการณ์ว่าสัดส่วนกำไรที่โปรเจกต์ต่าง ๆ สามารถทำได้จะ เพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 60-70% เลยทีเดียว
โดยรวมแล้วผู้ใช้งานจะได้ประโยชน์มากมายจากการอัปเกรดครั้งนี้ แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น การที่ค่า ธรรมเนียมถูกลงจะช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถทำแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น ทำให้อาจจะเห็นแอปพลิเคชันแบบใหม่ หรือ Use case ที่พวกเราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนก็เป็นไปได้
จากข้อมูลดังกล่าวอาจจะส่งปัจจัยบวกให้กับเหรียญในกลุ่มเลเยอร์ 2 ยกตัวอย่างเช่น Optimism, Arbitrum หรือเหรียญอื่น ๆ ที่อยู่ใน Sector นี้ได้รับผลดีตามไปด้วย
จากข้อมูล welovetheblobs มีตัวอย่างการจำลองการทำธุรกรรมหลังจากการอัปเกรดครั้งนี้ แบ่งออกเป็นการทำธุรกรรม 3 ประเภทดังนี้
1. แลกเปลี่ยนซื้อ-ขายเหรียญ ค่าธรรมเนียมจะถูกลงประมาณ 16.5 เท่า
2. สร้าง NFT ค่าธรรมเนียมจะถูกลงประมาณ 16 เท่า
3. การส่งเหรียญไปหาคนอื่น ค่าธรรมเนียมจะถูกลงประมาณ 47 เท่า
จะเห็นได้ว่าค่าธรรมเนียมบนเลเยอร์ 2 ถูกลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งเลเยอร์ 2 อย่าง Optimism, Arbitrum, Base, zkSync จะได้รับประโยชน์ด้านค่าธรรมเนียมอย่างมาก อย่างไรก็ตามอาจจะต้องรอทดสอบ อีกครั้งหลังจากที่มีการอัปเกรด Dencun เสร็จแล้วว่าค่าธรรมเนียมจะถูกลงเท่าไร
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจะมีบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ตัวใหม่ๆ อย่าง Solana, Fantom ที่เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหา ค่าธรรมเนียมให้ถูกลงที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนของ Ethereum แต่หลังจากการอัปเกรดครั้งนี้จะทำให้ค่าธรรมเนียม บนเลเยอร์ 2 ถูกลงจะช่วยเพิ่มขีดสามารถแข่งขันกับบล็อกเชนเหล่านั้นได้ดีมากยิ่งขึ้น
ในส่วนนี้อาจจะมีความกังวลว่าค่าธรรมเนียมบน Ethereum จะลดลงหรือไม่ แน่นอนว่าการอัปเกรด ครั้งนี้อาจจะส่งผลให้ Ethereum เก็บค่าธรรมเนียมได้น้อยลง แต่ ณ ปัจจุบันสัดส่วนค่าธรรมเนียมที่เลเยอร์ 2 จ่ายให้กับ Ethereum จะอยู่ที่ประมาณ 10-20% จากรายได้ทั้งหมด ซึ่งโดยรวมมองว่าไม่ได้มีความสำคัญมาก นัก เนื่องจากค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่ของ Ethereum เกิดจากการทำธุรกรรมบนเลเยอร์ 1
จากข้อมูลจาก Artemis จะเห็นได้ว่าค่าธรรมเนียมเฉลี่ย 7 วัน ของเลเยอร์ 2 จะอยู่ที่ประมาณ $3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 10.7% จากรายได้ที่ Ethereum เก็บได้ต่อ 1 วัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่ารายได้ส่วนใหญ่ของ Ethereum อาจไม่ได้รับผลกระทบมากเท่ากับที่หลาย ๆ คนกังวล
ผู้เขียน : นายอรุณ รุ่งโรจน์สุนทร
ตำแหน่ง : นักวิเคราะห์ (Analyst)
แต่ก่อนที่จะถึง Deadline การตัดสินเรื่อง Spot Ethereum ETF ในวันที่ 13 มีนาคม 2024 ที่จะถึงนี้จะ มีการอัปเกรดครั้งสำคัญของ Ethereum ที่ชื่อว่า “Dencun” หรือ Ethereum Improvement Proposal 4844 (EIP-4844) ที่จะเข้ามาช่วยเรื่องการลดค่าธรรมเนียมบนเลเยอร์ 2 ของ Ethereum ที่ทำให้ค่าธรรมเนียมถูกลง อย่างมาก
EIP-4844 คืออะไร?
โดยปกติแล้ว Ethereum จะแยกการประมวลผลธุรกรรมส่วนใหญ่ไปให้เลเยอร์ 2 แล้วจะทำการบันทึก ข้อมูลกลับไปที่ Ethereum เพื่อที่จะลดค่าธรรมเนียม และทำให้สามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากได้ โดย EIP-4844 จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้รองรับธุรกรรมได้มาก ขึ้นและลดต้นทุนในการทำธุรกรรม โดยจะทำให้ค่าธรรมเนียมบนเลเยอร์ 2 จะถูกลงถึง 10-100 เท่าเลยทีเดียว
การอัปเกรดครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรบ้าง?
โดยปกติแล้วค่าธรรมเนียมที่เราทำธุรกรรมบนเลเยอร์ 2 จะแบ่งเป็น 2 ส่วน แต่มากกว่า 90% จะเป็น ค่าใช้จ่ายในการบันทึกข้อมูลบน Ethereum ซึ่งหลังจากการอัปเกรด EIP-4844 ที่จะมาในวันที่ 13 มีนาคม นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่บันทึกข้อมูลลงบน Ethereum
จากข้อมูลด้านล่างจะสังเกตเห็นว่า อัตราการทำกำไรที่เลเยอร์ 2 ทั้งหมดสามารถทำได้เฉลี่ยอยู่ที่ประ มาณ 10-20% ซึ่งหลังจากการอัปเกรดนี้เสร็จแล้วคาดการณ์ว่าสัดส่วนกำไรที่โปรเจกต์ต่าง ๆ สามารถทำได้จะ เพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 60-70% เลยทีเดียว
โดยรวมแล้วผู้ใช้งานจะได้ประโยชน์มากมายจากการอัปเกรดครั้งนี้ แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น การที่ค่า ธรรมเนียมถูกลงจะช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถทำแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น ทำให้อาจจะเห็นแอปพลิเคชันแบบใหม่ หรือ Use case ที่พวกเราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนก็เป็นไปได้
จากข้อมูลดังกล่าวอาจจะส่งปัจจัยบวกให้กับเหรียญในกลุ่มเลเยอร์ 2 ยกตัวอย่างเช่น Optimism, Arbitrum หรือเหรียญอื่น ๆ ที่อยู่ใน Sector นี้ได้รับผลดีตามไปด้วย
จากข้อมูล welovetheblobs มีตัวอย่างการจำลองการทำธุรกรรมหลังจากการอัปเกรดครั้งนี้ แบ่งออกเป็นการทำธุรกรรม 3 ประเภทดังนี้
1. แลกเปลี่ยนซื้อ-ขายเหรียญ ค่าธรรมเนียมจะถูกลงประมาณ 16.5 เท่า
2. สร้าง NFT ค่าธรรมเนียมจะถูกลงประมาณ 16 เท่า
3. การส่งเหรียญไปหาคนอื่น ค่าธรรมเนียมจะถูกลงประมาณ 47 เท่า
จะเห็นได้ว่าค่าธรรมเนียมบนเลเยอร์ 2 ถูกลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งเลเยอร์ 2 อย่าง Optimism, Arbitrum, Base, zkSync จะได้รับประโยชน์ด้านค่าธรรมเนียมอย่างมาก อย่างไรก็ตามอาจจะต้องรอทดสอบ อีกครั้งหลังจากที่มีการอัปเกรด Dencun เสร็จแล้วว่าค่าธรรมเนียมจะถูกลงเท่าไร
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจะมีบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ตัวใหม่ๆ อย่าง Solana, Fantom ที่เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหา ค่าธรรมเนียมให้ถูกลงที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนของ Ethereum แต่หลังจากการอัปเกรดครั้งนี้จะทำให้ค่าธรรมเนียม บนเลเยอร์ 2 ถูกลงจะช่วยเพิ่มขีดสามารถแข่งขันกับบล็อกเชนเหล่านั้นได้ดีมากยิ่งขึ้น
ในส่วนนี้อาจจะมีความกังวลว่าค่าธรรมเนียมบน Ethereum จะลดลงหรือไม่ แน่นอนว่าการอัปเกรด ครั้งนี้อาจจะส่งผลให้ Ethereum เก็บค่าธรรมเนียมได้น้อยลง แต่ ณ ปัจจุบันสัดส่วนค่าธรรมเนียมที่เลเยอร์ 2 จ่ายให้กับ Ethereum จะอยู่ที่ประมาณ 10-20% จากรายได้ทั้งหมด ซึ่งโดยรวมมองว่าไม่ได้มีความสำคัญมาก นัก เนื่องจากค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่ของ Ethereum เกิดจากการทำธุรกรรมบนเลเยอร์ 1
จากข้อมูลจาก Artemis จะเห็นได้ว่าค่าธรรมเนียมเฉลี่ย 7 วัน ของเลเยอร์ 2 จะอยู่ที่ประมาณ $3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 10.7% จากรายได้ที่ Ethereum เก็บได้ต่อ 1 วัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่ารายได้ส่วนใหญ่ของ Ethereum อาจไม่ได้รับผลกระทบมากเท่ากับที่หลาย ๆ คนกังวล
ผู้เขียน : นายอรุณ รุ่งโรจน์สุนทร
ตำแหน่ง : นักวิเคราะห์ (Analyst)