กระดานข่าว
UAC เดินเกมรุกปี 67 ทยอยเดินเครื่องผลิตโครงการ PPM-CYC- ปิโตรเลียม เพิ่มเติม
14 มีนาคม 2567
บมจ.ยูเอซี โกลบอล ( UAC ) ปี 67 สดใสทั้งธุรกิจเทรดดิ้ง ปิโตเลียมเดินหน้าตามแผนพร้อมทยอยเปิดโครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM)-โครงการ PT Cahaya Yasa Cipta (CYC)-โครงการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มเติม ดันรายได้โต 15% ต่อปี และมี EBITDA มากกว่า 20% ของรายได้รวม

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง ในธุรกิจดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน อาทิ ธุรกิจเทรดดิ้งมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนธุรกิจปิโตรเลียมมีการผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ 300 BBL/Day ส่งผลให้การเติบโตของผลการดำเนินงานโดยเฉพาะรายได้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อปี และมี EBITDA มากกว่า 20% ของรายได้
และในปีนี้จะมีโครงการที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) ซึ่งหลังจากที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในส่วนของหน่วย Generator#1 ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกกะวัตต์ ภายในไตรมาส 1/2567 นี้ และส่วนของหน่วย Generator#2 มีกำลังการผลิต 1.5 เมกกะวัตต์ โดยคาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 2/2567
โครงการ PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด(บริษัทย่อย) ในบริษัท PT Cahaya Cipta สัดส่วน 70% เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี คาดว่าจะจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ในพื้นที่ใกล้เคียง ล่าสุดได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ซึ่งเป็นธนาคารในกลุ่ม KBANK จำนวน 60,000,000,000 IDR เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิต RDF3 ของ CYC ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและยื่นขอใบอนุญาตต่าง ๆ และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างโรงงานพร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ไตรมาส 4/2567
สำหรับการลงทุนโครงการผลิตเชื้อเพลิงขยะ (RDF) นั้น ทาง UAC มองว่าเชื้อเพลิงขยะเป็นพลังงานหมุนเวียนที่นำขยะจากชุมชน (Municipal Solid Waste) มาเป็นเชื้อเพลิงซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าจากของเหลือทิ้ง ดังนั้นมองว่าการลงทุนโครงการโรงงานผลิต RDF3 ที่เมือง Sukabumi จะเป็นการต่อยอดธุรกิจในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดรับกับการคำนึงถึงความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ การกำกับดูแลกิจการ (ESG) ซึ่งเป็นหลักการในการวางรากฐานความยั่งยืนและเสริมสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว โดยโรงงานผลิต RDF3 เป็นธุรกิจใหม่ที่ UAC เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี โดยจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ PT Semen Jawa บริษัทในเครือ SCG
ส่วนการผลิตปิโตรเลียม ของแหล่งบูรพา (L11/43) และแหล่งอรุโณทัย (L10/43) มีการวางแผนติดตั้ง Beam Pump ที่แหล่งบูรพาเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจำนวน 3 ชุด โดยติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 1 ชุด ส่วนอีก 2 ชุด คาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายในไตรมาส 1/2567 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตามเป้า 300 BBL/D
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเติบโตอย่างโดดเด่นโดยมีรายได้รวมแตะ 1,589.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 309.03 ล้านบาท (YoY) หรือ 24.13 % (YoY) และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท และ EBITDA จำนวน 278.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.55 % (YoY) และ 448.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.94 % (YoY) ตามลำดับ อย่างไรก็ตามจากตัวเลขผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่นส่งผลให้คณะกรรมการบริษัทฯ ประกาศจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.10 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 29 เมษายนนี้

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง ในธุรกิจดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน อาทิ ธุรกิจเทรดดิ้งมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนธุรกิจปิโตรเลียมมีการผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ 300 BBL/Day ส่งผลให้การเติบโตของผลการดำเนินงานโดยเฉพาะรายได้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อปี และมี EBITDA มากกว่า 20% ของรายได้
และในปีนี้จะมีโครงการที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) ซึ่งหลังจากที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในส่วนของหน่วย Generator#1 ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกกะวัตต์ ภายในไตรมาส 1/2567 นี้ และส่วนของหน่วย Generator#2 มีกำลังการผลิต 1.5 เมกกะวัตต์ โดยคาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 2/2567
โครงการ PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด(บริษัทย่อย) ในบริษัท PT Cahaya Cipta สัดส่วน 70% เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี คาดว่าจะจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ในพื้นที่ใกล้เคียง ล่าสุดได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ซึ่งเป็นธนาคารในกลุ่ม KBANK จำนวน 60,000,000,000 IDR เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิต RDF3 ของ CYC ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและยื่นขอใบอนุญาตต่าง ๆ และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างโรงงานพร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ไตรมาส 4/2567
สำหรับการลงทุนโครงการผลิตเชื้อเพลิงขยะ (RDF) นั้น ทาง UAC มองว่าเชื้อเพลิงขยะเป็นพลังงานหมุนเวียนที่นำขยะจากชุมชน (Municipal Solid Waste) มาเป็นเชื้อเพลิงซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าจากของเหลือทิ้ง ดังนั้นมองว่าการลงทุนโครงการโรงงานผลิต RDF3 ที่เมือง Sukabumi จะเป็นการต่อยอดธุรกิจในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดรับกับการคำนึงถึงความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ การกำกับดูแลกิจการ (ESG) ซึ่งเป็นหลักการในการวางรากฐานความยั่งยืนและเสริมสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว โดยโรงงานผลิต RDF3 เป็นธุรกิจใหม่ที่ UAC เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี โดยจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ PT Semen Jawa บริษัทในเครือ SCG
ส่วนการผลิตปิโตรเลียม ของแหล่งบูรพา (L11/43) และแหล่งอรุโณทัย (L10/43) มีการวางแผนติดตั้ง Beam Pump ที่แหล่งบูรพาเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจำนวน 3 ชุด โดยติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 1 ชุด ส่วนอีก 2 ชุด คาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายในไตรมาส 1/2567 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตามเป้า 300 BBL/D
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเติบโตอย่างโดดเด่นโดยมีรายได้รวมแตะ 1,589.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 309.03 ล้านบาท (YoY) หรือ 24.13 % (YoY) และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท และ EBITDA จำนวน 278.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.55 % (YoY) และ 448.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.94 % (YoY) ตามลำดับ อย่างไรก็ตามจากตัวเลขผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่นส่งผลให้คณะกรรมการบริษัทฯ ประกาศจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.10 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 29 เมษายนนี้
ยอดนิยม

VIH ซื้อหุ้นคืน 26.66 ล้านหุ้น ใช้เงินสดส่วนเกิน ยืนยันไม่เกี่ยวเงินเพิ่มทุน สาเหตุราคาหุ้นไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน ตั้งเป้าทำนิวไฮใหม่ปีนี้

13 มีนาคมนี้!!! ผู้ถือหุ้น MC รับเงินปันผลบานฉ่ำ !!!
.jpg)
“นิปปอนเพนต์” ก้าวล้ำวงการสีด้วยพลัง AI! ส่งสุดยอดแพ็กคู่โซลูชัน “น้องนิปปอน” และ “Colour Design”

เบเยอร์ เขย่าวงการธุรกิจสีทาอาคาร สำเร็จเจ้าแรก! ใช้เทคโนโลยีล้ำ AI OCR อ่านบิลเขียนมือได้ รันแคมเปญใหญ่ "ลดเดือดรับ Summer แจกไม่ยั้ง!"
