บล.ฟินันเซีย คาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,378-1,392 จุด โดยตลาดไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่สัปดาห์นี้มีธนาคารกลางหลายประเทศประชุม โฟกัสหลักอยู่ที่ FED ในคืนวันพุธว่าจะส่งสัญญาณด้านดอกเบี้ยอย่างไร และต้องติดตาม Dot Plot ชุดใหม่หลังการประชุมสัปดาห์หน้าว่าจะมีการปรับมุมมองต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2024-2026 ที่ 3 ครั้ง / 4 ครั้ง / 3 ครั้ง ตามลำดับอยู่หรือไม่ โดยเราเชื่อว่า SET Index มีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตามกำไรบจ.และ GDP 4Q23 ที่ประกาศออกมา
หุ้นเด่นวันนี้ :
NAL (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท)
ภาพระยะสั้น 1Q24 ยังโตได้ตามเป้า ซึ่งจะทำให้ในแง่ q-q มีลุ้นทรงตัวที่ระดับนิวไฮได้ สวนทางฤดูกาล ส่วนภาพทั้งปี 2024 ยังสดใสโดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวม +19% y-y แนวรับ 21//20.50 บาท แนวต้าน 22//22.50 บาท
บล.ไอร่า คาดตลาดวันนี้ “ Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,382 / 1,377 และแนวต้านที่บริเวณ 1,3990 / 1,396 เรามองตลาดยังคงได้รับ Sentiment เชิงลบจากต่างประเทศที่เผชิญแรงขายทำกำไร หลังช่วงที่ผ่านมารับรู้ประเด็นโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงเดือน มิ.ย. ไปค่อนข้างมากแล้ว โดยสัปดาห์นี้เราให้น้ำหนักไปกับ 2 เรื่องสำคัญคือ
1.) การแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คาดจะมีการหารือกับสภาพัฒน์ และ ธปท.
2.) การพิจารณาร่างงบประมาณปี'67 ในช่วงวันที่ 20-21 มี.ค. โดยเรายังมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป ซึ่งอาจส่งผลให้แนวโน้มในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-การออกโครงการใหม่ของภาครัฐตามมาได้ คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT และ CRC) และหุ้นในกลุ่มรับเหมา-ก่อสร้าง (CK, STEC, UNIQ และ SEAFCO) ปรับตัวขึ้นต่อ
หุ้นแนะนำวันนี้
STEC คาดจะได้รับแรงเก็งกำไรจากลงทุนโครงการใหม่จากภาครัฐในปีนี้ หลังการผ่านร่างงบประมาณปี'67 ที่คาดจะออกมาในช่วงเดือน เม.ย. อาทิ ทางด่วน จตุโชติ-ลำลูกกา และรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 รถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย คาดจะหนุนทิศทางราคาปรับตัวขึ้นได้
กลยุทธ์ "เก็งกำไร" แนวรับ 10.50 / 10.30, Target 11.30 / 12.10, Stop <9.70
บล.กสิกรไทย ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,370-1,400 จุด ในสัปดาห์นี้ ผลการประชุม BOJ และ Fed ในวันที่ 19-20 มี.ค. จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาด ในส่วนของ B0J ตลาดให้น้ำหนัก 50% ว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0% จากปัจจุบันที่ -0.10% หลังตัวเลขเงินเฟ้อปรับเข้าสู่เป้าหมายของธนาคารกลาง ส่วน Fed ตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายและ Dot plot ตามเดิมที่จะลดดอกเบี้ย 3-4 ครั้งในปีนี้ และอาจส่งสัญญาณชะลอการปรับลดงบดุลหรือ QT tapering ทำให้คาดว่าตลาดจะฟื้นตัวหลังทราบผลการประชุม อย่างไรก็ตามหาก Fed มีการส่งสัญญาณยืนดอกเบี้ยนานกว่าคาด เช่นปรับโอกาสการลดดอกเบี้ยเหลือ 2-3 ครั้งในปีนี้คาดตลาดหุ้นโลกจะปรับลงต่อ และดึงหุ้นไทยลงตามด้วย ในส่วนของปัจจัยในประเทศจะมีการพิจารณาร่าง พรบ. งบประมาณปี 2567 คาดมีแรงเก็งกำไรในหุ้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มรับเหมาฯ, วัสดุก่อสร้าง และขนส่งมวลชนต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นแนะนำวันนี้
IIG : ราคาพื้นฐาน 13.86 บาท
แนวโน้มของกำไรปี 2024 ฟื้นตัวที่ 48 ลบ. จากขาดทุน -288 ในปีที่ผ่านมา มาจากรายได้ปี 2024 จะฟื้นตัว 48% YOY ขณะที่บริษัทจะหยุดการดำเนินโครงการเมกะโปรเจ็คที่ส่งผลขาดทุน ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -72% ในปี 2023 สะท้อนภาพที่ขาดทุนไปแล้วในปีที่ผ่านมา
DOHOME : ราคาพื้นฐาน 12.30 บาท
คาดกำไรในปี 2024 จะฟื้นตัว 62.5% YOY จาก SSSG ที่ +4% และการขยายตัวของ GPM หนุนจากการจัดการต้นทุนของเหล็กได้ดี และ การเร่งรัฐบาล หลัง พรบ. งบประมานปี 2023 ผ่านสภาฯต้นเดือนเม.ย. นี้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ พร้อมมาตรการกระดันเศรษฐกิจของ
หุ้นเด่นวันนี้ :
NAL (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท)
ภาพระยะสั้น 1Q24 ยังโตได้ตามเป้า ซึ่งจะทำให้ในแง่ q-q มีลุ้นทรงตัวที่ระดับนิวไฮได้ สวนทางฤดูกาล ส่วนภาพทั้งปี 2024 ยังสดใสโดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวม +19% y-y แนวรับ 21//20.50 บาท แนวต้าน 22//22.50 บาท
บล.ไอร่า คาดตลาดวันนี้ “ Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,382 / 1,377 และแนวต้านที่บริเวณ 1,3990 / 1,396 เรามองตลาดยังคงได้รับ Sentiment เชิงลบจากต่างประเทศที่เผชิญแรงขายทำกำไร หลังช่วงที่ผ่านมารับรู้ประเด็นโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงเดือน มิ.ย. ไปค่อนข้างมากแล้ว โดยสัปดาห์นี้เราให้น้ำหนักไปกับ 2 เรื่องสำคัญคือ
1.) การแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คาดจะมีการหารือกับสภาพัฒน์ และ ธปท.
2.) การพิจารณาร่างงบประมาณปี'67 ในช่วงวันที่ 20-21 มี.ค. โดยเรายังมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป ซึ่งอาจส่งผลให้แนวโน้มในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-การออกโครงการใหม่ของภาครัฐตามมาได้ คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT และ CRC) และหุ้นในกลุ่มรับเหมา-ก่อสร้าง (CK, STEC, UNIQ และ SEAFCO) ปรับตัวขึ้นต่อ
หุ้นแนะนำวันนี้
STEC คาดจะได้รับแรงเก็งกำไรจากลงทุนโครงการใหม่จากภาครัฐในปีนี้ หลังการผ่านร่างงบประมาณปี'67 ที่คาดจะออกมาในช่วงเดือน เม.ย. อาทิ ทางด่วน จตุโชติ-ลำลูกกา และรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 รถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย คาดจะหนุนทิศทางราคาปรับตัวขึ้นได้
กลยุทธ์ "เก็งกำไร" แนวรับ 10.50 / 10.30, Target 11.30 / 12.10, Stop <9.70
บล.กสิกรไทย ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,370-1,400 จุด ในสัปดาห์นี้ ผลการประชุม BOJ และ Fed ในวันที่ 19-20 มี.ค. จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาด ในส่วนของ B0J ตลาดให้น้ำหนัก 50% ว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0% จากปัจจุบันที่ -0.10% หลังตัวเลขเงินเฟ้อปรับเข้าสู่เป้าหมายของธนาคารกลาง ส่วน Fed ตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายและ Dot plot ตามเดิมที่จะลดดอกเบี้ย 3-4 ครั้งในปีนี้ และอาจส่งสัญญาณชะลอการปรับลดงบดุลหรือ QT tapering ทำให้คาดว่าตลาดจะฟื้นตัวหลังทราบผลการประชุม อย่างไรก็ตามหาก Fed มีการส่งสัญญาณยืนดอกเบี้ยนานกว่าคาด เช่นปรับโอกาสการลดดอกเบี้ยเหลือ 2-3 ครั้งในปีนี้คาดตลาดหุ้นโลกจะปรับลงต่อ และดึงหุ้นไทยลงตามด้วย ในส่วนของปัจจัยในประเทศจะมีการพิจารณาร่าง พรบ. งบประมาณปี 2567 คาดมีแรงเก็งกำไรในหุ้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มรับเหมาฯ, วัสดุก่อสร้าง และขนส่งมวลชนต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นแนะนำวันนี้
IIG : ราคาพื้นฐาน 13.86 บาท
แนวโน้มของกำไรปี 2024 ฟื้นตัวที่ 48 ลบ. จากขาดทุน -288 ในปีที่ผ่านมา มาจากรายได้ปี 2024 จะฟื้นตัว 48% YOY ขณะที่บริษัทจะหยุดการดำเนินโครงการเมกะโปรเจ็คที่ส่งผลขาดทุน ราคาหุ้นปรับตัวลดลง -72% ในปี 2023 สะท้อนภาพที่ขาดทุนไปแล้วในปีที่ผ่านมา
DOHOME : ราคาพื้นฐาน 12.30 บาท
คาดกำไรในปี 2024 จะฟื้นตัว 62.5% YOY จาก SSSG ที่ +4% และการขยายตัวของ GPM หนุนจากการจัดการต้นทุนของเหล็กได้ดี และ การเร่งรัฐบาล หลัง พรบ. งบประมานปี 2023 ผ่านสภาฯต้นเดือนเม.ย. นี้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ พร้อมมาตรการกระดันเศรษฐกิจของ