การจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ว่ามีมติรับทราบการปรับวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เร็วขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
-สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบฯ ปี พ.ศ. 2567 วาระที่ 2-3 วันที่ 20-21 มี.ค.67
-วุฒิสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบฯ ปี พ.ศ. 2567วันที่ 25-26 มี.ค.67
- สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่างพระราชบัญญัติงบฯ พ.ศ. 2567 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใข้เป็นกฎหมายต่อไป วันที่ 3 เม.ย.67
หลังจากนั้น คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ และทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
ประเด็นดังกล่าว ทำให้มีเวลาใช้งบประมาณปี 67 ที่อัดแน่นเพียง 6 เดือนเท่านั้น และคาดทำให้ตัวเลขการเบิกจ่ายภาครัฐที่ติดลบติดต่อกัน 6 ไตรมาส สามารถพลิกกับมาฟื้นตัวได้
ซึ่งสอดคล้องกับคาดการณ์ GDP GROWTH ปีนี้ของสภาพัฒน์ที่อยู่ในช่วง 2.2%-3.2% ซึ่งส่วนที่ฟื้นตัวเด่นในปีนี้ คือ การอุปโภคภาครัฐฯ(G) ที่คาด +1.5%YOY ฟื้นตัวเด่นจากปี 2566 ที่ -4.6%YOY
โดยฝ่ายวิจัยบล. เอเซีย พลัส เปิดเผยว่าได้รวมรวมข้อมูลในอดีต ซึ่งสถิติบ่งชี้ว่า กลุ่มหุ้นที่มักปรับขึ้นเด่น เวลามีการเบิกจ่ายภาครัฐเติบโตเด่น คือ กลุ่ม CONMAT, CONS ที่ปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่าตลาดและเริ่มเห็น MOMENTUM ประเด็นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ใกล้เข้ามา จากการ
เก็งกำไรของนักลงทุนในวันศุกร์ที่ 15 มี.ค. 67 หนุนกลุ่มหุ้น STEEL +8.9%, CONS +1.1%, CONMAT +0.3% ขณะที่ SET INDEX -0.6%
สรุป การที่ ครม.เร่งเบิกจ่ายงบประมาณเร็วขึ้น และจะมีผลบังคับใช้ช่วงต้นไตรมาส 2 คาดหนุนให้ GDP ไตรมาส 2 สดใสอีกครั้ง ส่วนเด่นๆ คือ การอุปโภคภาครัฐฯ (G) เพราะมีช่วงเวลาในการใช้จ่ายเพียง 6 เดือนเท่านั้น ดังนั้นกลยุทธ์แนะนำลงทุนหุ้น รับเหมาก่อสร้าง CK STEC TTCL, วัสดุก่อสร้าง SCC SCCC TASCO รวมถึงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเหล็ก BSBM, TMT, TSTH, INOX ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าราคาหุ้นจะกลับมา OUTPERFORM ตลาดอีกครั้ง