Wealth Sharing

JMART - JMT เครดิตแข็งแกร่ง ลั่นกระแสเงินสดในมือแน่น


20 มีนาคม 2567

JMART มั่นใจศักยภาพธุรกิจแข็งแกร่ง ปี 67 มุ่งเป้าสู่ All Time High แย้มบริษัทที่เข้าไปลงทุนคาดให้ปันผลตอบแทนกลับมา (Cash Dividend) เฉียดพันล้าน หนุนกระแสเงินสดในมือแน่น ด้าน JMT บริษัทลูกหลักในการสร้างกำไร ผู้นำ AMC อันดับหนึ่งในการบริหารหนี้ไม่มีหลักประกัน ส่งสัญญาณ Q1/67 ยอดจัดเก็บยังทำได้ดีตามแผน และมั่นใจ กลุ่มเจมาร์ท Ecosystem ครอบคลุมทั้งธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี Value จากการ Synergy ซ่อนมูลค่าอยู่ จับตาดูต่อจากนี้ JMART จะสร้างกำไรตอบแทนผู้ถือหุ้น หลังผ่านจุดต่ำสุดในปี 66 มาแล้ว ด้านทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ JMART JMT ไม่เปลี่ยนแปลง

JMART - JMT เครดิตแข็งแกร่ง.jpg

ทั้งนี้ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (JMART) ยืนยันภาพรวมบริษัทยังแข็งแกร่ง โดยทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) และบมจ. เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ที่ระดับเดิม ที่ “BBB+” และ คงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ชุดปัจจุบันของ JMART และ JMT ที่ระดับ “BBB” แม้ปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” เนื่องจากมองว่าสถานะทางการเงินของ JMART ที่อ่อนแอลง อันเนื่องมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ และ การลงทุนเชิงรุก ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับกลับมาเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ในกรณีที่บริษัทมีผลการดำเนินงานทางการเงินที่ดีขึ้นในขณะเดียวกันยังคงรักษาการก่อหนี้ให้อยู่ในระดับเดียวกับปัจจุบันเอาไว้ได้

ด้าน นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงความมั่นใจว่า ในปี 2567 JMART จะกลับมาทำ All Time High และแข็งแกร่งขึ้นจากบริษัทย่อยซึ่งเป็น Key Drivers ที่สำคัญคือ JMT (JMART ถือหุ้น 53.9%) มีผลประกอบการที่เติบโตมาโดยตลอด รวมทั้ง การเก็บเกี่ยวผลกำไรในบริษัทที่เข้าไปลงทุน ได้แก่ บริษัทสุกี้ตี๋น้อย ที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้ง BRR PRTR BKD จึงประมาณการผลตอบแทนที่เราไปลงทุนคาดว่าจะได้รับเงินปันผลกลับมาที่เจมาร์ท (Cash Dividend) อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย สร้างกระแสเงินสดกลับมาให้เจมาร์ทจากปี 2566 JMART มีเงินสดในมือราว 800 ล้านบาท รวมกับเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับอีกเกือบ 1 พันล้านบาท มองว่า การบริหารเงินลงทุนที่ผ่านมา ได้สร้างโอกาสทางธุรกิจและผลตอบแทนได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งยังไม่นับรวมยอดขายหรือโอกาสทางธุรกิจที่มาจากการ Synergy ร่วมกันภายในกลุ่ม และนี่คือ Value ที่ซ่อนอยู่ของเจมาร์ท ในด้านความแข็งแกร่งของโครงสร้างทุนมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (IBD/E) เพียง 0.76 เท่า

อย่างไรก็ดี ในปี 2566 แม้ว่า เจมาร์ทได้รับผลกระทบจากการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม SINGER และ SGC ซึ่งสามารถพิสูจน์ผลงานในงบไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา พลิกกลับมาทำกำไรได้ตามที่วางไว้ หลังจากกลุ่มบริษัท SINGER และ SGC ไม่มีตั้งสำรองอย่างมีนัยสำคัญ และกำลังสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเทิร์นอะราวด์ มองเป็นวิกฤติที่กลุ่มบริษัทได้ปิดความเสี่ยงในส่วนนั้นไว้แล้ว และจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วงต่อจากนี้ ยืนยันปี 2566 ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจบริหารหนี้ของ JMT เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่ง จากการเป็นผู้นำ AMC บริหารหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน และจะยังเติบโตต่อเนื่องจากพอร์ตหนี้ที่บริษัทซื้อมาบริหาร และการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ แม้สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความสามารถในการจ่ายชำระของลูกหนี้

อย่างไรก็ดี JMT ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี และมั่นใจว่าในทุกวิกฤติจะเป็นโอกาสเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก เป็นโอกาสให้ JMT ซื้อหนี้เข้ามาบริหารต่อเนื่อง พร้อมเผยแนวโน้มไตรมาส 1/2567 ยอดจัดเก็บยังทำได้ตามแผนคาดดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จึงมั่นใจ JMT ในปี 2567 จะทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีพอร์ตบริหารหนี้รวมอยู่ที่ประมาณ 510,000 ล้านบาท (รวม JK AMC) มีฐานะการเงินแข็งแกร่งได้วางแผนกระแสเงินสดในการชำระคืนหุ้นครบกำหนดไถ่ถอนไว้เรียบร้อยแล้ว