Fund / Insurance

BKI ทำ Tender Offerแลกหุ้น “BKI” เป็น “BKIH” 25 มี.ค.- 5 มิ.ย. 67


27 มีนาคม 2567

กรุงเทพประกันภัย ประกาศทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ แลกหุ้น “BKI” เป็น “BKIH” ขยายโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เริ่ม 25 มี.ค.- 5 มิ.ย. 67 

Fund Insurance BKI ทำ Tender Offerแลกหุ้น.jpg

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เดินหน้าปรับโครงสร้างสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายและมีศักยภาพ หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างบริษัทฯ โดยการจัดตั้งบริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เมื่อช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุดได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ให้มีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) โดยบริษัทฯ ได้กำหนดระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนหุ้นจาก “BKI” เป็น “BKIH” ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 มิถุนายน 2567 รวมทั้งสิ้น 45 วันทำการ 

สำหรับกระบวนการแลกหุ้นในครั้งนี้  BKIH จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อแลกกับหุ้นสามัญของ BKI ในอัตราเท่ากับ 1 หุ้นสามัญของ BKI ต่อ 1 หุ้นสามัญของ BKIH อย่างไรก็ตาม การแลกหุ้นดังกล่าวจะไม่ได้เป็นไปโดยอัตโนมัติ แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะกรณีที่ผู้ถือหุ้นของ BKI ได้ทำการ “ตอบรับ” คำเสนอซื้อหลักทรัพย์แล้วจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 เท่านั้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มความคล่องตัวในการขยายการลงทุน ต่อยอดการสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการดำเนินกิจการตามทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน จากการลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่จะก่อให้เกิดการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต โดยมีขั้นตอนการตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ BKI ดังนี้

ระยะเวลารับซื้อ

•    เวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น. ของทุกวันทำการ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2567 รวมระยะเวลา 45 วันทำการ ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลารับซื้อสุดท้ายที่จะไม่ขยายระยะเวลารับซื้ออีก 

ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ (Tender Agent)

•    บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

รูปแบบการตอบรับคำเสนอซื้อ    

•    กรณีมีหุ้นอยู่ในบัญชีหลักทรัพย์ (Scripless) ทั้งกรณีที่มีหุ้นในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือมีหุ้นในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ ผู้แสดงเจตนาขายสามารถแสดงเจตนาขายผ่านระบบออนไลน์ของบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ได้ที่เว็บไซต์ www.bualuang.co.th (ระบบ e-Tender) โดยขอความร่วมมือให้ผู้ถือหุ้นยื่นแบบตอบรับผ่านระบบออนไลน์ล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันทำการ ก่อนวันสุดท้ายของระยะเวลารับซื้อ

•    กรณีมีใบหุ้นหรือฝากหุ้นกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ในบัญชี 600 ผู้แสดงเจตนาขายสามารถยื่นแบบตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์พร้อมเอกสารประกอบด้วยตนเองกับทางบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่) ในฐานะตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ไม่สามารถส่งเอกสารทางไปรษณีย์ได้ โดยขอความร่วมมือให้ผู้ถือหุ้นยื่นแบบตอบรับ ณ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่) ล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันทำการ ก่อนวันสุดท้ายของระยะเวลารับซื้อ 

ที่อยู่สำหรับนำส่งเอกสารแบบตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์

•    บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่) 

ฝ่ายปฏิบัติการ ชั้น 23 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ 191 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500โทรศัพท์ 0 2618 1141-3, 0 2618 1146-7 หรือ 0 2618 1122, 0 2618 1129, 0 2618 1133

โทรสาร     0 2618 1120 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม    

•    BKIH Call Center โทรศัพท์ 0 2285 8999 

ทั้งนี้ เมื่อกระบวนการแลกหุ้นแล้วเสร็จ BKIH จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประมาณช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2567 โดยจะใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า BKIH และผู้ถือหุ้น BKI ที่ได้ทำการแลกหุ้นสมบูรณ์ตามกำหนดเวลาจะเปลี่ยนเป็นผู้ถือหุ้นของ BKIH แทน โดยจะไม่ได้รับผลกระทบทางภาษีใดๆ อันเป็นผลจากธุรกรรมการแลกหุ้น สำหรับผู้ถือหุ้น BKI ที่ไม่ได้ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในระยะเวลาที่กำหนดจะยังคงถือหุ้น BKI ต่อไป ทั้งนี้ หุ้น BKI จะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกันที่หุ้นของ BKIH เข้าจดทะเบียน 

การเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมโอกาสครั้งสำคัญ BKIH จะก้าวผ่านความท้าทายและเติบโตไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยวิสัยทัศน์ “มุ่งสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนผ่านธุรกิจประกันภัยและธุรกิจอื่นที่หลากหลาย” พร้อมด้วยพันธกิจ “สร้างผลประกอบการที่ดีผ่านการลงทุนในธุรกิจหลักด้านการประกันภัยและธุรกิจอื่นที่มีศักยภาพ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มให้เติบโตอย่างยั่งยืน” เพื่อนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จในอนาคต