Wealth Sharing

NEO พร้อมเข้าตลาดฯ เปิดราคา IPO 39 บาทต่อหุ้น


28 มีนาคม 2567
นายสุทธิเดช ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “NEO”)  เปิดเผยว่า ได้วางแผนขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภค” โดยบริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดสินค้าอุปโภคมากว่า 34 ปี เป็นผู้ทำการตลาด ผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพของคนไทย มีเอกลักษณ์โดดเด่นเทียบเท่าระดับสากล โดยบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสเติบโตใหม่ผ่านการขยายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ (Mass Market) กลุ่มพรีเมียมแมส (Premium Mass) และกลุ่มพรีเมียม  (Premium) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมใหม่ให้กับทุกคน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  

NEO พร้อมเข้าตลาดฯ copy.jpg

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสินค้าอุปโภคครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม รวม 8 แบรนด์ ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน (Household Products) อาทิ แบรนด์ไฟน์ไลน์ (Fineline) แบรนด์สมาร์ท (Smart) และแบรนด์โทมิ (Tomi) 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล (Personal Care Products) อาทิ แบรนด์บีไนซ์ (BeNice) แบรนด์ทรอส (TROS) แบรนด์เอเวอร์เซ้นส์ (Eversense) และแบรนด์วีไวต์ (Vivite) 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก (Baby and Kids Products) ภายใต้แบรนด์ดีนี่ (D-nee)  ล่าสุด บริษัทฯ ได้เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ซึ่งจะยกระดับความสามารถด้านการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ 

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งการลงทุนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตและยกระดับประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ตลอดจนการขยายคลังวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่มีความทันสมัย เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลชีวิตประจำวันของทุกคนให้ได้รับความสะดวกสบายและมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น เพื่อยกระดับความสุขของผู้บริโภคให้ทุกวันดียิ่งขึ้น (Uplift The Essentials for Everyday Betterment)” นายสุทธิเดช กล่าว 

ทั้งนี้ บมจ. นีโอ คอร์ปอเรท มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 222 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 87.50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 29.2 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายกำลังการผลิตของสินค้ากลุ่มของใช้ในครัวเรือน (Household Products) ขยายคลังวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์เพื่อให้รองรับกับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต ส่วนที่เหลือใช้ชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ   

“การกำหนดราคาหุ้น IPO ของ NEO ที่ราคา 39  บาทต่อหุ้น พิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันอย่างมาก โดยราคาดังกล่าวนอกจากจะมีความต้องการส่วนเกินแล้วยังถือว่าเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานมั่นคง เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง  ประกอบกับศักยภาพของโรงงานที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ส่งผลให้ NEO มีศักยภาพ
NEO