รายงานพิเศษ : CMAN ตั้งฐานผลิตปูนไลม์ในอินเดียหนุนขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจปูนไลม์ Top 5 ของโลก
เศรษฐกิจอินเดียที่เติบโตอย่างรวดเร็วและโดดเด่น เป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ รวมทั้ง บมจ.เคมีแมน (CMAN) ซึ่ง CEO มั่นใจการขยายฐานการผลิตปูนไลม์ไปในอินเดีย สนับสนุนบริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจปูนไลม์ระดับ Top 5 ของโลกภายในเวลาอันใกล้
S&P Global Ratings สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านเศรษฐกิจระดับโลก คาดการณ์ว่าอินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งปัจจุบันขนาดเศรษฐกิจอินเดียจัดอยู่ในอันดับ 5 รองจากสหรัฐฯ จีน เยอรมณี และญี่ปุ่น โดยปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอินเดียให้เติบโตขึ้น ได้แก่การที่อินเดียตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลกในสินค้าหลายอุตสาหกรรม (ข้อมูล ณ ธ.ค. 66)
สอดคล้องกับมุมมองของ IMF World Economic Outlook ที่ระบุว่าปัจจุบันเศรษฐกิจอินเดียอยู่ในอันดับ 5 ของโลก โดยมูลค่า GDP ของอินเดีย มีสัดส่วนกว่า 3.5% ของ GDP ทั่วโลก และคาดการณ์ว่ามีโอกาสจะขึ้นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในปี 2027 โดยมีปัจจัยที่ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้แก่ จำนวนประชากรที่เป็นอันดับหนึ่งของโลก ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานและเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อภาคครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น และความน่าสนใจในการเป็นฐานการผลิตของธุรกิจของโลก
ในด้านแผนการพัฒนาประเทศ รัฐบาลอินเดียปรับปรุงและพัฒนากฎระเบียบด้านภาคธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น กฎระเบียบเรื่องการล้มละลาย เรื่องภาษี ฯ เพิ่มความมั่นใจกับนักลงทุนและการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
เศรษฐกิจอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและโดดเด่น ทำให้ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ รวมทั้ง บมจ.เคมีแมน (CMAN) ซึ่ง “มล.จันทรจุฑา จันทรทัต” ประธานกรรมการ ระบุว่า บริษัทฯใช้เวลานานกว่า 10 ปี พัฒนาความสัมพันธ์กับคู่ค้าในอินเดียจนก้าวสู่การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในรูปของการร่วมลงทุนเมื่อหลายปีก่อน และความร่วมมือในการสร้างโรงงานเมื่อเร็ว ๆ นี้
โดยบริษัทเล็งเห็นโอกาสในอินเดียมานานแล้ว เพราะเป็นประเทศขนาดใหญ่ ยังมีการขยายโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาอุตสาหกรรมอีกมาก มีจำนวนประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจ ด้วยนโยบาย "Made in India" ทำให้ปัจจุบันอินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการปูนควิกไลม์ และปูนไฮเดรตไลม์ มีมากกว่า 16 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณความต้องการที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
ตลาดปูนไลม์ส่วนใหญ่ของอินเดียพึ่งพาการซื้อจากผู้ผลิตในประเทศเป็นหลัก และมีการนำเข้าน้อยกว่า 1 ล้านตันต่อปี เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าสูงกว่าการซื้อในประเทศเพราะค่าขนส่งทางเรือและภาษีนำเข้า ดังนั้น การมีโรงงานผลิตปูนไลม์ในประเทศอินเดีย จึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่ตอบโจทย์ในระยะยาว
ซึ่งฐานการผลิตปูนไลม์ของ CMAN ครอบคลุมตลาดเกือบทั้งหมดของอินเดีย ได้แก่
1. Easternbulk Lime Products (ELPPL) ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือ Tuticorin ทางภาคใต้ของอินเดีย เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2562 มีกำลังการผลิตปูนไลม์สูงสุด 100,000 ตันต่อปี ปัจจุบันผลิตเต็มกำลัง และมีผลกำไร
2. Siriman Chemicals ("Siriman") ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือ Visakhapatnam ทางภาคตะวันออกของอินเดีย มีกำลังการผลิตปูนไลม์สูงสุด 50,000 ตันต่อปี และปูนไฮเดรตไลม์สูงสุด 35,000 ตันต่อปี เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2564 เริ่มทำกำไรตั้งแต่ 6 เดือนที่ผ่านมา และผลประกอบการมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
3. Khimsar Mine Corporation ("KMC") ตั้งอยู่เมืองคิมซ่า รัฐราชสถาน ทางภาคเหนือของอินเดีย โรงงานเฟสแรกคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2568 กำลังการผลิตปูนไลม์ 100,000 ตันต่อปี และจะเพิ่มเป็น 500,000 ตันต่อปีอย่างรวดเร็วตามแผนการในระยะแรก เนื่องจากรัฐราชสถานมีพื้นที่ติดกับรัฐคุชราต และรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเป็นเขตที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดของประเทศอินเดีย ดังนั้น KMC จะสามารถสร้างฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมเป้าหมายได้เป็นจำนวนมาก
บริษัทประเมินว่า ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่โรงงานทั้ง 3 แห่งรวมกัน จะกลายเป็นฐานการผลิตปูนไลม์ที่ใหญ่กว่าประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่าฐานการผลิตเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมตลาดทั่วอินเดียนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ CMAN ก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจปูนไลม์ระดับ Top 5 ของโลกภายในระยะเวลาอันใกล้