จับประเด็นหุ้นเด่น
รายงานพิเศษ : TACC สารพัดข่าวดีสินค้าใหม่ดันยอดขาย จ่ายปันผลปี 66 กว่า 7%
01 เมษายน 2567
บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เริ่มต้นปีสารพัดข่าวดี เล็งเปิดตัวสินค้าใหม่กลุ่ม Health and Wellness สร้าง New Growth และยังเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดี โบรกเกอร์คาดปีนี้จ่ายกว่า 7%
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า ในปี 2567 เราให้ความสำคัญกับการสร้างฐานของ New Growth จากนวัตกรรมสินค้า Health and Wellness ต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร
ขณะที่ล่าสุดบริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าเครื่องดื่ม "Lychee Jelly Pink" วางจำหน่ายในมุม All cafe ของร้าน 7-Eleven พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 21 มีนาคม 2567 ประกอบด้วย ชาลิ้นจี่ เจลลี่ พิงค์ (Lychee Jelly Pink Tea) ลิ้นจี่โยเกิร์ตปั่น เจลลี่พิงค์ (Lychee Jelly Pink Yogurt Smoothie) ลิ้นจี่โซดา (Lychee Jelly Pink Soda) และ เจลลี่ พิงค์ (Jelly Pink) ซึ่งได้มีการพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner เพื่อกระตุ้นยอดขายในร้าน 7-Eleven หวังว่าจะสนับสนุนรายได้ในปี 67 เติบโต 2 Digit ตามแผนงานที่วางไว้
TACC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ในมุม All Cafe ทั้งร้าน 7-Eleven ในประเทศไทย ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา และใน สปป.ลาว ที่คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับธุรกิจ License Business ในปี 2567 บริษัทฯจะมีคาแรคเตอร์ตัวใหม่ต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน License Business ของบริษัทมีทั้งธุรกิจคาแรคเตอร์ต่างประเทศ และของไทย เช่น หมาจ๋า Warbie Yama Line Creators เป็นต้น หลังจากปีก่อนได้รับลิขสิทธิ์เป็นตัวแทนดูแลลิขสิทธิ์ และทำการตลาดในประเทศไทย สำหรับ "Bellygom" หมีสีชมพูสุดคิวท์ตัวแรกจากประเทศเกาหลีเป็นระยะเวลา 4 ปี
ส่วนของ บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP) ที่เป็นบริษัทย่อย ซึ่งมีแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมชั้นนำที่ผลิตจากประเทศเกาหลี โดยคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 67 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น และมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขาย รับกระแส Health and Wellness ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
ขณะที่ บล.พาย วิเคราะห์ภาพรวม ปี 24 TACC ตั้งเป้าเติบโต 10% YoY โดยเป็นการเติบโต ตามการเปิดสาขาของ CPALL ที่มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ (กัมพูชา สิ้นปี 23 มีจำนวน 82 สาขา และสปป.ลาว สิ้นปี 23 มี 3 สาขา และได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นปี ขณะที่การออกสินค้าใหม่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มโถกดและ All Cafe รวมถึงการขยายตัวของร้านกาแฟพันธุ์ไทยด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจลิขสิทธิ์ตัวละคร ในปี24 จะมีการรับรู้รายได้จาก 2 ตัวละครใหม่เต็มปี ทั้ง"BELLYGOM" และ "OhigenoPon" รวมถึงการร่วมมือกับสินค้าต่างๆ ในการนำภาพตัวละครไปใช้ ขณะที่ธุรกิจอาหารเสริมคาดว่าจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มสกินแคร์ในเดือนมีนาคม
เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 7.0 บาท (18xPER'24E อิงกับระดับ PER ย้อนหลัง 5ปี) ด้วยปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่คาดว่าในปี 24 กำไรสุทธิจะเติบโต 15% มาอยู่ที่ 237 ล้านบาทส่วนรายได้เติบโต 11% มาอยู่ที่ 1894 ล้านบาทจากปัจจัยบวกข้างต้น นอกจากนี้ TACC ยังมีการจ่ายเงินปันผลในระดับที่ดี โดยช่วง 2H23 จ่ายอีก 0.19 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 4% (รวมทั้งปีจ่าย 0.36 บาทต่อหุ้นคิดเป็นอัตราผลตอบแทนกว่า 7%)
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า ในปี 2567 เราให้ความสำคัญกับการสร้างฐานของ New Growth จากนวัตกรรมสินค้า Health and Wellness ต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ซึ่งอยู่ในเมกะเทรนด์ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร
ขณะที่ล่าสุดบริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าเครื่องดื่ม "Lychee Jelly Pink" วางจำหน่ายในมุม All cafe ของร้าน 7-Eleven พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 21 มีนาคม 2567 ประกอบด้วย ชาลิ้นจี่ เจลลี่ พิงค์ (Lychee Jelly Pink Tea) ลิ้นจี่โยเกิร์ตปั่น เจลลี่พิงค์ (Lychee Jelly Pink Yogurt Smoothie) ลิ้นจี่โซดา (Lychee Jelly Pink Soda) และ เจลลี่ พิงค์ (Jelly Pink) ซึ่งได้มีการพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner เพื่อกระตุ้นยอดขายในร้าน 7-Eleven หวังว่าจะสนับสนุนรายได้ในปี 67 เติบโต 2 Digit ตามแผนงานที่วางไว้
TACC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ในมุม All Cafe ทั้งร้าน 7-Eleven ในประเทศไทย ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา และใน สปป.ลาว ที่คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับธุรกิจ License Business ในปี 2567 บริษัทฯจะมีคาแรคเตอร์ตัวใหม่ต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน License Business ของบริษัทมีทั้งธุรกิจคาแรคเตอร์ต่างประเทศ และของไทย เช่น หมาจ๋า Warbie Yama Line Creators เป็นต้น หลังจากปีก่อนได้รับลิขสิทธิ์เป็นตัวแทนดูแลลิขสิทธิ์ และทำการตลาดในประเทศไทย สำหรับ "Bellygom" หมีสีชมพูสุดคิวท์ตัวแรกจากประเทศเกาหลีเป็นระยะเวลา 4 ปี
ส่วนของ บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP) ที่เป็นบริษัทย่อย ซึ่งมีแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมชั้นนำที่ผลิตจากประเทศเกาหลี โดยคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 67 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น และมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขาย รับกระแส Health and Wellness ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
ขณะที่ บล.พาย วิเคราะห์ภาพรวม ปี 24 TACC ตั้งเป้าเติบโต 10% YoY โดยเป็นการเติบโต ตามการเปิดสาขาของ CPALL ที่มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ (กัมพูชา สิ้นปี 23 มีจำนวน 82 สาขา และสปป.ลาว สิ้นปี 23 มี 3 สาขา และได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นปี ขณะที่การออกสินค้าใหม่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มโถกดและ All Cafe รวมถึงการขยายตัวของร้านกาแฟพันธุ์ไทยด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจลิขสิทธิ์ตัวละคร ในปี24 จะมีการรับรู้รายได้จาก 2 ตัวละครใหม่เต็มปี ทั้ง"BELLYGOM" และ "OhigenoPon" รวมถึงการร่วมมือกับสินค้าต่างๆ ในการนำภาพตัวละครไปใช้ ขณะที่ธุรกิจอาหารเสริมคาดว่าจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มสกินแคร์ในเดือนมีนาคม
เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 7.0 บาท (18xPER'24E อิงกับระดับ PER ย้อนหลัง 5ปี) ด้วยปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่คาดว่าในปี 24 กำไรสุทธิจะเติบโต 15% มาอยู่ที่ 237 ล้านบาทส่วนรายได้เติบโต 11% มาอยู่ที่ 1894 ล้านบาทจากปัจจัยบวกข้างต้น นอกจากนี้ TACC ยังมีการจ่ายเงินปันผลในระดับที่ดี โดยช่วง 2H23 จ่ายอีก 0.19 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 4% (รวมทั้งปีจ่าย 0.36 บาทต่อหุ้นคิดเป็นอัตราผลตอบแทนกว่า 7%)