RS Mall (อาร์เอส มอลล์) ในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป พลิกโฉม สู่ RS Mall X (อาร์เอส มอลล์ เอ็กซ์) พร้อมนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งภายใต้ Multi-channel Network Model (MCN Model) ที่ผนึกศักยภาพจากดารา-นักร้องในสังกัดให้เป็นเครือข่ายครีเอเตอร์ที่แข็งแกร่ง กว่า 120 ชีวิต รวมยอดผู้ติดตามกว่า 20 ล้านบัญชี โดย RS Mall X จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ครอบคลุมทั้งช่องทางเดิมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ได้แก่ Direct Commerce ซึ่งประกอบด้วย ออนแอร์ เทเลเซล เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ต่อยอดสู่ช่องทางใหม่ล่าสุด ได้แก่ Social Commerce ภายใต้ MCN Model ที่มีเครือข่ายพันธมิตรสำคัญอย่าง TikTok, Shopee, Lazada, Facebook และ Instagram พร้อมนำเสนอสินค้าที่หลากหลายจากทั้งแบรนด์ในเครือและแบรนด์พาร์ทเนอร์ รวมกว่า 500 SKUs ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘RS Mall X Extreme Convenience สะดวกสุดใจ สบายสุดขีด’ เพื่อส่งมอบความสะดวกสบายเหนือระดับให้กับผู้บริโภค และคาดว่าจะต่อยอดไปสู่รายได้ปี 2567 ทั้งหมดกว่า 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นรายได้จาก MCN Model ประมาณ 400 ล้านบาท คิดเป็น 30% ภายในสิ้นปี
คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ RS Mall เป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าภายใต้ RS LiveWell ซึ่งมีการขายสินค้ารูปแบบ Direct Commerce ที่แข็งแกร่งผ่าน On-air, เทเลเซล, เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน อยู่แล้ว แต่เรายังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ จากไลฟ์สไตล์ของคนไทยและจำนวนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศที่มีถึง 60 ล้านคน ล่าสุด เราจึงปฏิวัติการขายสินค้าของ RS Mall สู่ ‘RS Mall X’ เพื่อต่อยอดการเติบโตและก้าวข้ามขีดจำกัดศักยภาพ ผ่าน Social Commerce ภายใต้ MCN Model โดยผลักดันศักยภาพของดารา-นักร้องในสังกัดกว่า 120 คน ทั้งจาก RS Multimedia & Entertainment และ RS Music ที่มีผู้ติดตามรวมกว่า 20 ล้านบัญชี ให้กลายเป็นครีเอเตอร์รุ่นใหม่ รวมทั้งการใช้ Affiliate Marketing ผ่านการทำงานร่วมกับ Influencers อิสระ ในรูปแบบ KOL Agency ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็เพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น โดยมาจากแบรนด์ในเครือ 60% และแบรนด์พาร์ทเนอร์ 40% รวมกว่า 500 SKUs เพื่อให้เข้าถึงฐานลูกค้าที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทุกกลุ่มอายุ และทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ เรายังผนึกกำลังกับแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง อย่าง TikTok, Shopee, Lazada, Facebook และ Instagram จึงมั่นใจว่า Social Commerce รูปแบบใหม่นี้จะส่งเสริมให้รายได้ของ RS Mall X เติบโตอย่างก้าวกระโดด”
คุณวิลาสินี ธรรมประกอบ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร RS Mall X กล่าวเสริมว่า “ด้วยเทรนด์ Affiliate Marketing ที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล เราจึงร่วมมือกับ Strategic Partners ที่เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำ ทั้ง TikTok, Shopee, Lazada, Facebook และ Instagram ในการขยายฐานลูกค้า จากเดิมลูกค้าของ RS Mall อยู่ในช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป มาจากช่องทาง Home Shopping และเทเลเซล เป็นหลัก แต่หลังจากที่เรารีแบรนด์เป็น RS Mall X แล้ว เราจะโฟกัสไปที่การเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่อายุ 18-65 ปี ด้วย Online Marketplace และ Live Commerce นำโดยศิลปินและนักแสดงในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งมีฐานผู้ติดตามที่แข็งแกร่ง และผ่านการอบรมภายในเพื่อเตรียมความพร้อมในการรุกธุรกิจ Social Commerce แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เราจะจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น และเพิ่มประเภทสินค้าจากพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 60 SKUs ต่อเดือน เพื่อให้ RS Mall X สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ พาร์ทเนอร์ B2B ที่เราคัดเลือกสินค้ามาจัดจำหน่ายจะได้รับการดูแลแบบ One-stop Service ตั้งแต่การบริหารจัดการสินค้า ช่วยทำการตลาด ไปจนถึงการจัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทางของ RS Mall X”
ทั้งนี้ MCN Model ของ RS Mall X ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘RS Mall X Extreme Convenience สะดวกสุดใจ สบายสุดขีด’ จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายครีเอเตอร์ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ผ่านจุดแข็งที่แตกต่าง ดังนี้
• Product Portfolio ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงามและของใช้ส่วนตัว สินค้าอุปโภคบริโภค แฟชัน เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าตกแต่งบ้านและไลฟ์สไตล์ และแกดเจ็ต เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของครีเอเตอร์และผู้ติดตามที่มีความสนใจที่แตกต่างกัน เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น
• ระบบ Fulfillment ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์ไม่ต้องสต็อกสินค้าเอง ทั้งยังช่วยดูแลระบบหลังบ้านตั้งแต่การช่วยครีเอทคอนเทนต์จนถึงการจัดส่งสินค้า จึงสร้างความสะดวกสบายและประหยัดเวลาให้กับครีเอเตอร์ ไม่ต้องจัดการเองในทุกขั้นตอน
• ทีมงานสนับสนุน ที่ RS Mall X เราพร้อมช่วยพัฒนาคอนเทนต์ ให้คำปรึกษา จัดการอบรม และประสานงานกับทีมงานของแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีห้อง Livestreaming พร้อมอุปกรณ์ครบครันที่สำนักงานของ อาร์เอส กรุ๊ป
• เครือข่ายกับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ที่จะช่วยให้เข้าถึงสินค้าและโปรโมชันได้มากกว่า และต่อยอดไปถึงโอกาสที่จะได้รับค่าคอมมิชชันที่สูงกว่า
“การพลิกโฉม RS Mall ด้วย MCN Model ถือเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกธุรกิจในปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นของ MCN Model ทั้งการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ครอบคลุม การลดต้นทุนจากการทำสื่อโฆษณา เพราะมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ช่วยสร้างการเติบโตของยอดขาย ตลอดจนการวัดผล Conversion ได้ทันที โดยคาดว่า MCN Model จะสร้างรายได้ถึง 400 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2567 คิดเป็นสัดส่วนถึง 30% จากรายได้ปี 2567 ทั้งหมดของ RS Mall X ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท” คุณสุรชัย กล่าวสรุป