Wealth Sharing

KISS โชว์กำไร 147.9 ลบ. เพิ่มขึ้น 24.7% แจกปันผล 0.08 บาท ลั่นปี 66 โตต่อ ลุยขยายตลาดทั้งใน-ตปท.


23 กุมภาพันธ์ 2566
‘โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล’ ฟอร์มสวย โกยกำไรสุทธิปี 65 ที่ 147.9 ลบ. เพิ่มขึ้น 24.7% แจกปันผล 0.08 บาทต่อหุ้น หลังโควิดผ่อนคลาย เปิดเมือง ท่องเที่ยวหนุน ลั่นปี 66 โตต่อเนื่อง เสริมแกร่งแบรนด์ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศ
KISS โชว์กำไร .jpg
นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 932.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 160 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 20.7% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้จากการขายและบริการ 772.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 147.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.3 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 24.7% จากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 118.6 ล้านบาท โดยบริษัทจะจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.08 บาทต่อหุ้น กำหนดวันไม่ได้รับสิทธิปันผล XD วันที่ 3 พ.ค. 2566 จ่ายปันผลวันที่ 24 พ.ค. 2566

โดยที่รายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากยอดขายผลิตภัณฑ์หลัก ไม่ว่าจะเป็น Rojukiss Skincare ที่เติบโตขึ้น 12% ในขณะที่ Sis2Sis เติบโตขึ้น 26% จากปีก่อน จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และการเปิดประเทศรองรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว รวมถึงมีรายได้เพิ่มขึ้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งเริ่มจัดจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 โดยได้รับกระแสตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ในขณะที่ตลาดในต่างประเทศก็สามารถเติบโตได้ดีทั้งใน CLMV และอินโดนีเซีย ซึ่งมีการเติบโตขึ้น 31% และที่สำคัญบริษัทฯ มีการจัดทำแผนการตลาดที่เหมาะสม ทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในขณะที่แนวโน้มภาพรวมธุรกิจในปี 2566 บริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากยอดขายผลิตภัณฑ์หลักทั้ง Rojukiss และ Sis2Sis ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ติดตลาด มีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด และบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเสนอสินค้าใหม่อีกกว่า 40 รายการ ควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์ และการตลาดแบบเต็มรูปแบบรวมทั้งช่องทาง Digital เพื่อสร้างการรับรู้ที่ดียิ่งขึ้นให้กับแบรนด์ รองรับการขยายช่องทางจัดจำหน่ายทั้ง Offline และ Online ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึง และขยายฐานลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

“ในปีที่ผ่านมาเรามียอดขายที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และเครื่องสำอาง ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักเหล่านี้ก็ยังสามารถที่จะเติบโตได้อีกในปีนี้ เพราะแบรนด์ของเราค่อนข้างแข็งแกร่ง ในปีนี้ เราเน้นการลงทุนการตลาดเพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น การทำการตลาดที่เข้มข้นเพื่อให้แบรนด์กลายเป็น Top Of Mind ของลูกค้า ในขณะที่เราคาดว่าตลาดความงามจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ” นางวรวรรณกล่าว