Fund / Insurance

จับตาเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ ชี้โอกาสการลงทุนกำไรสูงในหุ้นเอเชีย


05 เมษายน 2567
จับตาเงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ copy.jpg

Finnomena Funds (ฟินโนมีนา ฟันด์) มองโอกาสการลงทุนครั้งใหม่ในตลาดหุ้น Emerging Markets จากศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอันโดดเด่น ผ่านพ้นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นพร้อมด้วยราคาหุ้นที่ยังมีโอกาสให้ขึ้นต่อ หลังตลาดวิ่งเป็น Sideway มาตั้งแต่ช่วงต้นปีก่อน


ภาพรวมภาวะการลงทุนทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567พบว่าตลาดหุ้นที่ทำผลตอบแทนได้โดดเด่น นำมาโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น (Nikkei 225) ปรับเพิ่มขึ้น 20.6% ตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) ปรับเพิ่มขึ้น 10.4% และตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา (S&P500) ปรับเพิ่มขึ้น 10.2% ส่งผลให้ดัชนีรวมหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) สร้างผลตอบแทนสูงกว่า 8.5% นับตั้งแต่ต้นปี

ขณะที่ฝั่งตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง +1.9% จากต้นปี 2567 ถือว่าราคา Laggard หุ้นโลก 

แต่อย่างไรก็ดี ทีมวิเคราะห์การลงทุน Finnomena Funds มองว่าเป็นจังหวะดีที่จะหมุนเงินลงทุนมาที่ Emerging Markets เพื่อรับโอกาสในระยะข้างหน้าเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งในหลายประเทศได้รับประโยชน์จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลงในสหรัฐฯ เม็ดเงินลงทุนไหลเข้า (Fund Flow) มีทิศทางชัดเจนยิ่งขึ้น ตลอดจนมูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นในปัจจุบันนั้นเป็นระดับราคาที่น่าสนใจ

นายวศิน ปริธัญ Managing Director บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด ในเครือของ Finnomena Group เปิดเผยว่า “มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในกลุ่ม Emerging Markets โดยเฉพาะฝั่งตลาดหุ้นเอเชีย เพื่อรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะกลาง-ยาว หลังวิเคราะห์ห์ผ่านกรอบการลงทุน MEVT Call ที่ครอบคลุมทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค”

● Macroeconomics: เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว รวมถึงการเติบโตที่ต่อเนื่องของอินเดีย อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ พร้อมรับประโยชน์เพิ่มเติมจากทิศทางเงินดอลลาร์อ่อนค่า
● Earnings: ตลาดคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในเอเชีย ยังโตสูงกว่า 22% พร้อมการปรับประมาณการที่มีโมเมนตัมดีขึ้น
● Valuation: มูลค่าหุ้นเอเชีย (MSCI Asia ex Japan) เมื่อเทียบกับหุ้นโลก (MSCI ACWI) อยู่ที่บริเวณ -2S.D. ซึ่งเป็นระดับราคาที่ถูกมาก
● Technical: เริ่มเห็นสัญญาณเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียชัดเจนมากขึ้นสะท้อนว่านักลงทุนเริ่มกลับมาสนใจตลาดหุ้นเกิดใหม่อีกครั้ง

ทั้งนี้ จึงแนะนำทะยอยสะสมกองทุนหุ้นเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ผ่านกองทุนกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เอเชีย: UOBSA เป็นกองทุนความเสี่ยงสูงระดับ 6 บริหารเชิงรุก (Active Management) เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนเหนือกว่าดัชนีชี้วัด MSCI AC Asia (ex Japan)

อีกทั้งยังมีความโดดเด่นจากการใช้ AI คัดเลือกหุ้นร่วมกับผู้จัดการกองทุนมากประสบการณ์เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงการลงทุนในหุ้นใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูงและกระจายลงทุนในหลากหลายประเทศ เช่น อินเดีย, ไต้หวัน, จีน,สิงคโปร์ และเกาหลีใต้

นายเจษฎา สุขทิศ CEO & Co-founder Finnomena Group เปิดเผยว่า “มุมมองการลงทุนFundTalk The Contrarian Style ที่เฟ้นหาโอกาสในสินทรัพย์ที่ดี ราคาถูกนั้นเห็นโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ ทั้งอินเดีย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน และจีน ซึ่งได้แรงหนุนจาก Fund Flow พื้นฐานดี P/E ถูก รวมทั้งการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นจีนซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของตลาดหุ้นเกิดใหม่ในภาพรวม”

ดังนั้น จึงแนะนำเข้าลงทุนผ่าน กองทุนเปิดเค ซีเล็คทีฟ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ตส์ หุ้นทุน: K-SEMQ เป็นกองทุนความเสี่ยงสูงระดับ 6 ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Templeton Emerging Markets Fund ซึ่งกระจายการลงทุนในจีน, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, อินเดีย และ บราซิล จึงช่วยลดความเสี่ยงด้านการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในแต่ละประเทศได้ดีรวมทั้งยังอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม นำโดยหุ้นเทคโนโลยีอย่าง TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน รวมถึง Samsung Electronics ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำจากเกาหลีใต้ ทำให้ตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนในปี 2530 สามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI Emerging Markets Index อย่างสม่ำเสมอ