หุ้น Meta พุ่งทำนิวไฮ! หลังกูรูปรับเป้าราคา ชี้ 'จุดแข็ง' ทำกำไรจากการชิงส่วนแบ่ง 'โฆษณาดิจิทัล' ด้วย AI เพิ่มขึ้นเป็น 50% ของตลาด เอาชนะเจ้าตลาด Amazon และมีประสิทธิภาพกว่า Google
หุ้น META ของเมตา (Meta Platforms Inc) พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากนักวิเคราะห์จากสองบริษัทหลักทรัพย์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย โดยอ้างถึงความเชื่อมั่นในการมีสัดส่วนทางการตลาดด้านโฆษณาดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นของบริษัท
โดยราคาหุ้น Meta ทำสถิติใหม่ขึ้นไปแตะระดับ 530 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.6% ในระหว่างวัน ก่อนจะปรับตัวลดลงมา และปิดตลาดที่ 510.92 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นเพียงน้อยกว่า 1% และหุ้นของ Meta เพิ่มขึ้นประมาณ 45% ในปีนี้
กูรูปรับเป้าราคา Meta
นักวิเคราะห์จาก Jefferies ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้น Meta จาก 550 ดอลลาร์ เป็น 585 ดอลลาร์ และคาดการณ์ว่าส่วนแบ่งการตลาดโฆษณาของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในปีนี้
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์จาก RBC Capital Markets ก็ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 600 ดอลลาร์ จากเดิม 565 ดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นราคาสูงสุดที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) CEO นำบริษัทผ่านปีที่แล้วร้ายในปี 2565 โดยประกาศว่าปี 2566 จะเป็น "ปีแห่งประสิทธิภาพ" จากนั้นบริษัทดำเนินการลดต้นทุนอย่างหนัก รวมถึงการตัดตำแหน่งงานหลายพันตำแหน่ง และมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงธุรกิจโฆษณาผ่านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และในเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ ซัคเกอร์เบิร์ก กล่าวว่า เขาตั้งใจที่จะ "บริหารจัดการอย่างรัดกุม" ต่อไป
นักวิเคราะห์จาก Jefferies ชื่นชม Meta โดยมองว่าบริษัทมี "ข้อดีมากมายเกินกว่าจะนับได้" การตัดสินใจลงทุนมหาศาล 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน (capital expenditures) เมื่อปีที่แล้ว "ช่วยให้บริษัทพัฒนาข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์หลายประการเหนือคู่แข่ง"
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Meta อาจจะครองส่วนแบ่งการตลาดโฆษณาได้มากถึง 50% ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 33% ในปี 2566 ที่สำคัญ พวกเขายังมองว่า Meta มีแนวโน้มที่จะเติบโตเร็วกว่าธุรกิจโฆษณาของ Amazon ซึ่งถือเป็นการแซงหน้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2558 เลยทีเดียว
Amazon กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดโฆษณา ดิจิทัล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากกลไกที่บังคับให้ผู้ขายรายอื่นที่ใช้แพลตฟอร์ม Amazon ใช้จ่ายจำนวนมากบนแพลตฟอร์มเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ของตน และรักษาการมองเห็นต่อผู้บริโภค
ในรายงานของ RBC นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึง ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นของ Meta เมื่อเทียบกับคู่แข่งหลักอย่าง Google โดยระบุว่า พบเห็น "ความไม่พอใจ" (advertiser resistance) จากผู้ลงโฆษณา ต่อการผลักดันแคมเปญโฆษณา Performance Max (Pmax) ของ Google
RBC ชี้ว่า เมื่อเทียบกันแล้ว Meta แสดงประสิทธิภาพด้านผลตอบแทนจากการใช้จ่ายโฆษณา และประสิทธิภาพของ AI ได้ดีกว่า Google อย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่า Meta น่าจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากเงินโฆษณาที่ไหลออกจากแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งอาจถูกแบนในสหรัฐอเมริกา
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1120988