ส่องสถิติ"ราคาทอง" 4 เดือนปี 67 พุ่ง 8,000 บาท ให้ผลตอบแทนกว่า 23% นายกสมาคมค้าทองคำ"จิตติ" ชี้ยังมีโอกาสทำกำไรได้อีก คาดแนวโน้มปรับขึ้นแตะ 44,000 บาท ภายในไตรมาส 2 ปีนี้ จากปัจจัยธนาคารกลางเข้าซื้อทองคำเพิ่มเพื่อเป็นทุนสำรอง และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำพุ่งอย่างต่อเนื่อง แม้จะแรงเทขายออกมาบ้าง แต่แรงซื้อกลับเข้ามาค่อนข้างแกร่งกว่า จากสถิติการปรับขึ้นของราคาทอง นับตั้งแต่ต้นปีมา ( 1 ม.ค.-17 เม.ย.67 ) จาก การรวบรวมของ "ฐานเศรษฐกิจ" โดยอ้างอิงราคาประกาศของสมาคมค้าทองคำ
พบว่าตั้งแต่ต้นปี 67 เป็นต้นราคาทองในประเทศปรับขึ้นมาแล้วถึง 8,000 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนถึง 23.77% โดยเฉพาะเป็นการปรับขึ้นในช่วง 2 เดือนหลัง ( เดือน มี.ค.- 17 เม.ย.67 ) ถึงบาทละ 7,050 บาท หรือปรับเพิ่มถึง 21% โดยราคาทองคำแท่งขายทำสถิติสูงที่บาทละ 41,650.00 บาท และราคาต่ำสุดบาทละ 33,400.00 บาท
ล่าสุดวันนี้ (18 เม.ย.67) เมื่อเวลา 09.40 น. ราคาทองปรับลดลงรวม 300 บาท ราคาทองคำแท่งขายที่บาทละ 41,350.00 บาท และราคาทองรูปพรรณขายที่บาทละ 41,850.00 บาท
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับ ฐานเศรษฐกิจ ว่าแนวโน้มราคาทองยังมีโอกาสปรับขึ้น คาดอาจถึง 44,000 บาท ภายในไตรมาส 2 ปีนี้ ปัจจัยหลักมาจากการที่ธนาคารกลางหลายประเทศเข้าซื้อทองคำเพิ่มเพื่อเป็นทุนสำรอง จากผลกระทบจากความตึงเครียดในสถานการณ์ตะวันออกกลาง ส่วนการที่เฟดชะลอการปรับลดดอกเบี้ย ไม่มีน้ำหนักต่อราคาทองมากนัก
"การที่แบงก์กลางเปลี่ยนจากที่เคยใช้เงินสกุลดอลลาร์เป็นทุนสำรอง มาเป็นทองคำแทน มองเป็นการถือนาน มีความเสถียร ส่งผลให้ราคาทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นได้อีก โดยสมาคมค้าทองคำคาดว่า ตลาดทองโลกภายในปีนี้อาจปรับขึ้นถึง 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ แต่ไม่น่าถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ ดังนั้นใครที่คิดจะเข้ามาลงทุนในช่วงนี้ยังมีโอกาสทำกำไร เช้านี้ราคาทองปรับลด 350 บาท เป็นเพียงพักฐาน เพราะยังเป็นขาขึ้นของทอง "
ทั้งนี้การที่ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง โดยปี 2565- 2566 ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำมากกว่า 1,000 ตันต่อปี ขณะที่ปีนี้ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเดินหน้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้จีนเข้าซื้อทองคำมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ถือว่าเป็นการเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน รองลงมาก็จะเป็นตุรกี และอินเดียตามมาเป็นอันดับ 3
ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป นำโดยอาคาช โดชี หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านสินค้าโภคภัณฑ์ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือของซิตี้กรุ๊ป คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มทะยานขึ้นแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในอีก 6-18 เดือนข้างหน้านี้ จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า ทองคำเข้าสู่ภาวะตลาดกระทิงแล้ว พร้อมกับปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำขึ้นสู่ระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปี 2567 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์/ออนซ์
ที่มา : https://www.thansettakij.com/finance/financial-banking/593802