สุดจัด! ไรเดอร์แชร์ "งานในฝัน" เรียนไม่จบประถม แต่ทำเงินได้เกือบ 2 แสนต่อเดือน

หนุ่มไรเดอร์กระซิบ วิธีหาเงินแบบสุดโหด เรียนไม่จบประถม แต่มีรายได้เกือบ 2 แสนต่อเดือน บอกนี่มันงานในฝัน แต่ชาวเน็ตห่วงสุขภาพ!

“Wangan Bryan” ไรเดอร์ชาวสิงคโปร์วัย 21 ปี อ้างว่าเขามีรายได้อย่างน้อย 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน (มากกว่า 1.3 แสนบาท) ซึ่งมากกว่ารายได้ที่นักศึกษาจบใหม่ส่วนใหญ่ได้รับในทุกวันนี้ แม้ว่าตัวเขาเองจะเรียนไม่จบชั้นประถม

ตามการเปิดเผยกับสำนักข่าวกับ AsiaOne เมื่อวันที่ 4 เมษายน เกี่ยวกับการ “เสพติด” ในการทำงาน 16-20 ชั่วโมงต่อวันไม่ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศแบบใด และกล่าวว่างานส่งอาหารอาจจะเรียกได้ว่าเป็น "งานในฝัน” ของเขา เพราะเป็นงานที่ผ่อนคลาย สามารถจัดตารางเวลาเริ่มและเลิกงานด้วยตัวเอง

“และรายได้ก็ค่อนข้างดี ผมได้รับทิปจากลูกค้า ค่ารักษาพยาบาล และโบนัสจูงใจ”

ตามข้อมูลยังพบด้วยว่า เขาเริ่มต้นทำงานกับแอป Foodpanda เมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากลาออกจากงานเป็นผู้ช่วยคลังสินค้า ในช่วงสองสามเดือนแรก เขามีรายได้ประมาณ 2,900 ดอลลาร์ (มากกว่า 7.8 หมื่นบาท) แต่รายได้ก็เพิ่มขึ้นสองเท่าหลังจากเปลี่ยนจากจักรยาน เป็นจักรยานไฟฟ้า

เมื่อเดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียว เขาส่งอาหารถึง 1,229 ครั้ง โดยใช้เวลารวมกว่า 400 ชั่วโมง และทำเงินได้ประมาณ 6,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ (มากกว่า 1.8 แสนบาท)

“ส่วนใหญ่ผมต้องอดทนต่อฝนหรืออากาศร้อน และร่างกายต้องต้านทานความเหนื่อยล้าในขณะที่ออกไปส่งอาหาร”

“ผมถูกกีดกันจากบริษัทเดิม” เขาบอกกับ AsiaOne พร้อมเสริมว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มักส่งเสียงแปลกๆ รบกวนกับเพื่อนร่วมงาน

ย้อนกลับไปสมัยยังเป็นนักเรียน เขาถูกเชิญออกจากโรงเรียนประถม เนื่องจากทะเลาะกับอาจารย์วินัย และทำร้ายอาจารย์ใหญ่ รวมถึงทำลายโต๊ะในห้องเรียนด้วย

แม้จะทำงานหนักเป็นเวลานานหลายชั่วโมง แต่เขาสามารถจินตนาการว่าตัวเองยังคงทำงานเป็นคนส่งอาหารไปจนกว่าเขาจะอายุ 65 ปี เขาไม่มีแผนที่จะศึกษาต่อ และกำลังออมเงินไว้เพื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินส่วนตัว และใช้ชีวิตอย่างอิสระ

“ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะไปถึงที่นั่น แต่(การเป็นคนขับรถส่งอาหาร) เป็นหนึ่งในทางลัดในการไล่ตามความฝันและเปลี่ยนความฝันให้เป็นจริง"

เมื่อเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตหลายคนแสดงความชื่นชมต่อไรเดอร์คนนี้สำหรับการ "การทำงานหนัก" ของเขาแต่ก็ยังเตือนว่าควรใช้ชีวิตโดยคำนึงถึงสุขภาพ อยู่อย่างปลอดภัย และดื่มน้ำให้เพียงพอขณะทำงาน

ที่มา : https://www.sanook.com/news/