Talk of The Town

TERA หุ้นไอพีโอน้องใหม่สุดฮอต! พบเสี่ยป๋อง - 2 ซีอีโอบจ.ชื่อดัง ตบเท้าจองซื้อ IPO กว่า 2.4 ล้านหุ้น


22 เมษายน 2567
หุ้นไอพีโอน้องใหม่ อย่างบริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA ผู้นำด้านธุรกิจให้บริการด้านระบบคลาวด์ จัดจำหน่ายและให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ขนาดใหญ่แบบครบวงจร ให้บริการแอปพลิเคชั่น ด้าน Logistics รวมถึงการลงทุนในกิจการอื่นๆ ที่ให้บริการด้านซอฟต์แวร์แอปพลิเคชั่นทางธุรกิจต่างๆ

TERA หุ้นไอพีโอน้องใหม่สุดฮอต copy_0.jpg
โดย TERA ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้น IPO สุดฮอต หลังจากเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.75 บาท ระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2567 หุ้น TERA ได้รับความสนใจจากนักลงทุนซื้อหุ้นจำนวนมาก ซึ่งมีแผนลงกระดานเทรดตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 24 เม.ย. นี้
ล่าสุดพบว่า นักลงทุนรายใหญ่ และผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนชื่อดัง ต่างตบเท้าเข้าจองซื้อหุ้น IPO อาทิ นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB  จำนวน 1 ล้านหุ้น 
ตามด้วย “เสี่ยป๋อง-วัชระ แก้วสว่าง” นักลงทุนรายใหญ่สไตล์เทคนิค เจ้าของพอร์ตลงทุนระดับ “พันล้าน” ได้รับจัดสรรจำนวน 1 ล้านหุ้นเช่นกัน และ นายสุทธิเดช ถกลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ได้รับจัดสรรจำนวน 4 แสนหุ้น
ขณะที่บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน TERA โดยบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ประเมินกำไรสุทธิ CAGR ที่ 21% ในปี 2566-68 เพิ่มขึ้นจาก 26 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 46 ล้านบาทในปี 2568
ทั้งนี้มีปัจจัยหลัก 1. การขยายตัวของการให้บริการระบบ T.Cloud โดยในปัจจุบันมีสัญญาลูกค้ามากกว่า 100 สัญญา อัตราการรักษาลูกค้าเก่าสูงถึงประมาณ 94% 2. ขยายกลุ่มลูกค้าจากซอฟต์แวร์ Skyfrog และ 3. การเติบโตของอุปกรณ์ไอที 
โดยกำหนดราคาเหมาะสมเท่ากับ 2.70 บาทต่อหุ้น เชื่อว่าหลังจากเพิ่มทุน IPO TERA จะเน้นสร้างรายได้ประจำเพิ่มมากขึ้น โดยเน้นขยายงานให้บริการด้านบริการระบบ Cloud (T.Cloud) Services ที่กำลังจะพัฒนาไปยัง Gen3
ขณะที่บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า แผนการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต จะช่วยเพิ่มความสามารถการทำกำไร คาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2566-68 จะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 26.8% ต่อปี ประเมินมูลค่าเหมาะสมของ TERA ที่ 2.60 บาทต่อหุ้น