เรื่องเด่นวันนี้
EP เดินหน้ารับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม ดันผลงานปี67โตทะยาน 4 เท่า หลังได้รับสนับสนุนเงินกู้ Project Finance จาก BIDV
23 เมษายน 2567
บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) โดยนายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ ระบุ ปักหมุดรายได้ปี 67 โตทะยาน 4 เท่าตัว จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมกว่า160 เมกะวัตต์ มั่นใจศักยภาพอนาคตหลังได้รับการสนับสนุนเงินกู้ Project Finance จาก BIDV
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) เปิดเผยในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ให้รับทราบแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2567 โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้รวมปีนี้เติบโตได้เกือบ 4 เท่าจากปี 2566 ทั้งในส่วนธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ที่ได้มีการปรับปรุงทั้งด้านการขายบริการ และการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน และธุรกิจพลังงาน ที่ในปีที่ผ่านมาอัตราการเจริญเติบโตด้านการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลบนหลังคา (Solar Rooftop) ที่สูงมาก รวมไปถึงการทยอยจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม และมั่นใจว่าในอนาคตบริษัทฯมีศักยภาพที่ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามได้อย่างแน่นอน
โดยในวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา EP ได้มีการลงนามในสัญญาให้การสนับสนุนเงินกู้ จากธนาคารลงทุนและการพัฒนาเวียดนาม (Bank for Investment and Development of Vietnam) หรือ BIDV ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลเวียดนาม ที่ให้บริการสินเชื่อแก่โครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยได้รับข้อเสนอ Project Finance สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม HL3 เป็นจำนวน 597,500 ล้านดอง หรือประมาณ 870 ล้านบาท โดยสามารถเบิกเงินกู้ได้ทันที ร้อยละ 60 ของวงเงิน และส่วนที่เหลือจะเบิกได้ เมื่อสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องอัตราค่าไฟฟ้าถาวร (FIT) กับทาง EVN ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณต้นปี 2568
"หลังจากที่บริษัทฯได้รับการสนับสนุนจากธนาคารลงทุนและการพัฒนาเวียดนาม หรือ BIDVทำให้บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถพัฒนาให้บริษัทฯเป็นหนึ่งในผู้นำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมประเทศเวียดนามได้ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ 160 เมกะวัตต์ รวมถึงมีความพร้อมจะสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการพิจารณาลงทุนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อีก 3 โครงการที่เหลือ กำลังการผลิตรวม 130 เมกะวัตต์ กำลังอยู่ระหว่างการขออนุมัติจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) กับทาง EVN คาดว่าจะได้รับการอนุมัติ ภายในเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งหลังจากนั้น ก็จะมีการทยอยลงนามในสัญญาเงินกู้ส่วนที่เหลือ ในวงเงินรวมกว่า 4,000 ล้านบาท ต่อไป" นายยุทธกล่าว
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) เปิดเผยในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ให้รับทราบแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2567 โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้รวมปีนี้เติบโตได้เกือบ 4 เท่าจากปี 2566 ทั้งในส่วนธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ที่ได้มีการปรับปรุงทั้งด้านการขายบริการ และการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน และธุรกิจพลังงาน ที่ในปีที่ผ่านมาอัตราการเจริญเติบโตด้านการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลบนหลังคา (Solar Rooftop) ที่สูงมาก รวมไปถึงการทยอยจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม และมั่นใจว่าในอนาคตบริษัทฯมีศักยภาพที่ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามได้อย่างแน่นอน
โดยในวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา EP ได้มีการลงนามในสัญญาให้การสนับสนุนเงินกู้ จากธนาคารลงทุนและการพัฒนาเวียดนาม (Bank for Investment and Development of Vietnam) หรือ BIDV ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลเวียดนาม ที่ให้บริการสินเชื่อแก่โครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยได้รับข้อเสนอ Project Finance สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม HL3 เป็นจำนวน 597,500 ล้านดอง หรือประมาณ 870 ล้านบาท โดยสามารถเบิกเงินกู้ได้ทันที ร้อยละ 60 ของวงเงิน และส่วนที่เหลือจะเบิกได้ เมื่อสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องอัตราค่าไฟฟ้าถาวร (FIT) กับทาง EVN ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณต้นปี 2568
"หลังจากที่บริษัทฯได้รับการสนับสนุนจากธนาคารลงทุนและการพัฒนาเวียดนาม หรือ BIDVทำให้บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถพัฒนาให้บริษัทฯเป็นหนึ่งในผู้นำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมประเทศเวียดนามได้ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ 160 เมกะวัตต์ รวมถึงมีความพร้อมจะสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการพิจารณาลงทุนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อีก 3 โครงการที่เหลือ กำลังการผลิตรวม 130 เมกะวัตต์ กำลังอยู่ระหว่างการขออนุมัติจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) กับทาง EVN คาดว่าจะได้รับการอนุมัติ ภายในเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งหลังจากนั้น ก็จะมีการทยอยลงนามในสัญญาเงินกู้ส่วนที่เหลือ ในวงเงินรวมกว่า 4,000 ล้านบาท ต่อไป" นายยุทธกล่าว