TERA ฟอร์มสวยเปิดเทรดพุ่ง 122% ผู้บริหารวางเป้ารายได้ปีนี้โต 10% ลุยให้บริการ T.Cloud รับอนาคตคึกคัก
บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ (24 เม.ย.67) เป็นครั้งแรก โดยเปิดตลาดที่ราคา 3.90 บาท ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นยืนเหนือราคาจองซื้อไอพีโอที่ 1.75 บาท ได้กว่า 122%
TERA เป็นผู้ออกแบบ ติดตั้ง จัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไอที และให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร เช่น ระบบเชิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
โดยบริษัทได้รับ การแต่งตั้งเป็น Platinum Partner ของ HPE (ชื่อเดิม คือ HP ซึ่งภายหลังบริษัทมีการจัดจำหน่ายและให้บริการ Local Cloud ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท "T.Cloud" เพิ่มเติม และขยายธุรกิจไปสู่การให้บริการ Public Cloud อาทิ Microsoft Azure จาก Microsoft และ AWS จาก Amazon
นอกจากนี้ยังจัดจำหน่ายและให้บริการซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการการขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (TMS) ผ่านแอปพลิเคชั่น "Skyfrog"
รวมทั้งออกแบบ จัดจำหน่าย ให้บริกรติดตั้งและบริการหลังการขายที่เกี่ยวกับห้องศูนย์ข้อมูล (Data Center) แบบครบวงจร ซึ่ง TERA มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ NEX ตั้งแต่ปี 2561
โดยนายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TERA เปิดเผยว่า พอใจหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก ราคาพุ่ง เกิดจากการกำหนดราคา IPO ที่เหมาะสม
ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน IT Solution Provider ที่นำเสนอโซลูชั่นไอทีที่มีคุณภาพ ให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญในโซลูชั่นเป็นอย่างดี ประกอบกับธุรกิจมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก จากแนวโน้มความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะอุตสาหกรรมดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายมุ่งเน้นเรื่องของการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และรักษาคุณภาพบริการ T.Cloud ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยจะลงทุนระบบ Cloud มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4/2567 เป็นต้นไป
รวมถึงจะมีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโต ด้วยการลงทุนราว 70 ล้านบาทตั้งแต่ในปี 2568 - 2569 ส่วนเงินที่เหลือจากการระดมทุนในครั้งนี้ ก็จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการในช่วงปี 2567-2568 จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น และผลการดำเนินงานที่เติบโต ทำให้คุณภาพและบริการดีขึ้น เพิ่มจุดขายได้มากขึ้น ตลอดจนจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันอย่างก้าวกระโดด พร้อมกับตั้งเป้ารายได้ใน 3 ปีข้างหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10% ทั้งจากการเติบโตแบบ Organic และ Inorganic โดยวางแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการบริการให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 50% ก็จะเพิ่มเป็น 70% ภายในสามปี
โดยปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% ปัจจุบันมี Backlog 257 ล้านบาท คาดรับรู้ทั้งหมดในปีนี้ ทั้งนี้ บริษัทวางแผนเพิ่มรายได้จากการบริการให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 50% โดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 70% ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากการขายต่อการให้บริการเท่ากัน 50:50
โดยจากนี้บริษัทจะเน้นการเติบโตในฝั่งของธุรกิจการให้บริการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเน้นนโยบายการให้บริการเป็นหลัก เพราะเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง
ขณะที่แผนแผนการสร้างโอกาสการเติบโต เช่น ดีลการเข้าซื้อกิจการ (M&A) นั้นคาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนของการเข้าไปลงทุนได้ภายในปี 2568 สำหรับ แผนการ Synergy ร่วมกับบริษัทแม่อย่าง บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEXT นั้นทาง NEXT มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่งจะสามารถสอดคล้องเติบโตด้วยกันได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) หรือ BYD ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (ร่วม) หุ้น TERA กล่าวว่า ราคาหุ้น TERA ที่เปิดการซื้อขายวันแรกเหนือจอง นอกจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการบริหารงานและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท
อีกทั้ง นักลงทุนยังเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากผลประกอบการของบริษัทฯ ที่ผ่านมา รวมถึงความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตไปพร้อมๆ กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปัจจุบันที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสนำเสนอโซลูชั่นทางเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์มาตรฐานตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งหน่วยงานภาคเอกชนและภาครัฐ ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาระบบประมวลฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีคุณภาพ รวมถึงการป้องกันภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์
ด้านนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA กล่าวว่า การเปิดซื้อขายหุ้นในวันแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินมีความภูมิใจอย่างยิ่ง และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบริษัทฯ ซึ่งจะสามารถนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปต่อยอดธุรกิจ สร้างความเข้มแข็ง พร้อมทั้งผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย รวมทั้งเชื่อว่า TERA จะเป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติครบเป็นหุ้นไฮบริด ทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock ได้อย่างแน่นอน