Talk of The Town

2 หุ้นกลุ่ม “ซีพี” ไตรมาส 1 รวยจุกๆ TRUE - CPF แทงสวน! ขาดทุนต่อ


26 เมษายน 2567
2 หุ้นกลุ่ม “ซีพี” copy.jpg

“เครือซีพี” ถือเป็นกลุ่มบริษัทรายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคของไทย ดังนั้นทีมข่าว Share2Trade จะพานักลงทุนมาสำรวจตัวเลขคาดการณ์กำไรในช่วงไตรมาส 1/2567 ของบริษัทในกลุ่ม ว่าจะมีความน่าสนใจหรือไม่ อ่านได้ผ่านบทความนี้เลย


CPALL ไตรมาสแรกสุดปัง!

เริ่มกันที่ CPALL นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปกติไตรมาส 1/67 ที่ 4.9 พันล้านบาท ลดลง 13% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยการชะลอจากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยด้านฤดูกาล แต่เติบโตเด่น จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากทั้ง 3 ธุรกิจ คาดอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) เติบโต 3.5%, Makro เติบโต 3% และ Lotus’s เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ แนวโน้มไตรมาส 2/67 คาดกำไรปกติเติบโตจากไตรมาสก่อน ตามฤดูกาล และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก SSSG ที่เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่องตามภาคท่องเที่ยว การเบิกจ่ายงบประมาณรัฐช่วงปลายไตรมาสและอานิสงค์จากอากาศร้อนกว่าปกติส่งผลให้คนเข้ามาซื้อเครื่องดื่มหรือสินค้าคลายร้อนอื่นๆ มากขึ้น ช่วยเพิ่ม Traffic ธุรกิจ CVS และ 2 แรงกดดันต้นทุนค่าไฟต่อหน่วยจะลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนแนวโน้มครึ่งหลังปี 2567 คาดผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก และช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แรงหนุนจาก เงินเฟ้อไทยที่ติดลบน้อยลง ช่วยลดความกังวลต่อการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งแรงกระตุ้นเศรษฐกิจจากงบประมาณเบิกจ่ายของภาครัฐ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ดังนั้นปรับประมาณการปี 2567-2568 ขึ้น 10.8% และ 11.4% เป็นคาดกำไรปกติปี 2567 ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 17% จากปีก่อน และปี 2568 คาดที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 13% คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 76 บาทต่อหุ้น

CPAXT กำไรโตเด่น 22%

ต่อกันที่ CPAXT นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปกติไตรมาส 1/67 ที่ 2.5 พันล้านบาท ลดลง 23% จากไตรมาสก่อน  เป็นผลจาก ปัจจัยด้านฤดูกาล และคาด SG&A/Sales ที่ 13.3% เพิ่มขึ้นจาก 12.8% ในไตรมาส 4/66 จากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าต่อหน่วย และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขยายธุรกิจออนไลน์ 

อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติเติบโตเด่น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก การเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) แรงหนุนของมาตรการ Easy e-Receipt และเทศกาลตรุษจีน

ส่วนทิศทางไตรมาส 2/2567 คาดผลประกอบการเติบโตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคาด SSSG เติบโตตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว, จำนวนวันหยุดยาวมากขึ้น, การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรัฐช่วงปลายไตรมาส รวมทั้งแรงกดดันต้นทุนค่าไฟลดลง

และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงหลังการปรับโครงสร้างเงินกู้ ในขณะเดียวกัน CPAXT พยายามเพิ่มสัดส่วนสินค้า Private Label ที่มีอัตราการทำกำไรดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ดังนั้นคาดปี 2567 จะมีกำไรปกติ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 21% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 37 บาทต่อหุ้น

TRUE ขาดทุนต่อ

ขณะที่ TRUE นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดไตรมาส 1/67 ขาดทุนปกติที่ 618 ล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 1.6 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 และดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 1.9 พันล้านบาทในไตรมาส 1/66 โดยผลประกอบการที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อนมาจากการลดต้นทุนและการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ลดลง

ขณะที่การลดต้นทุนจะเริ่มเห็นผลในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ดังนั้นประมาณการปี 2567 ที่คาดขาดทุน 1.3 พันล้านบาทมี Upside Risk แต่การพิจารณาความเหมาะสมจะอยู่ในช่วงกลางปี 2567 คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมที่ 8.60 บาท

แม้ Upside ระยะสั้นเริ่มจำกัด แต่ประมาณการปี 2567 มี Upside Risk และหากมองข้ามไปปี 2568 TRUE จะเข้าสู่ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวกำไรเต็มตัวซึ่งจะทำให้มูลค่าเหมาะสม และตลาดถูกปรับเพิ่มขึ้น โดยให้ TRUE เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มสื่อสารในช่วง 6-12 เดือนจากนี้

CPF แบกขาดทุนอีก 2.3 พันล้านบาท

ปิดท้ายกันที่ CPF นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด คาดไตรมาส 1/2567 ขาดทุนสุทธิ 2.3 พันล้านบาท มีแนวโน้มดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการฟื้นตัวหลักๆ มาจากแนวโน้มราคาหมูในเวียดนามปรับตัวดีขึ้น และราคาไก่ไทยปรับตัวดีขึ้นราว 7%จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่เฉลี่ยราว 40 บาท/กก. 

แต่ปัจจัยที่ทำให้การฟื้นตัวไม่เต็มที่และยังเห็นการขาดทุนต่อเนื่องอยู่ มาจากราคาหมูที่กลับมาอ่อนตัวในช่วงเดือน มี.ค. ทำให้ทั้งไตรมาสเฉลี่ยอ่อนตัวลงราว 1% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่เฉลี่ยราว 66 บาท/กก. 

ด้านต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์อ่อนตัวลง แต่ผลกระทบยังไม่มาก เนื่องจากยังมีสต็อกวัตถุดิบจากต้นทุนเดิมอยู่ทำให้ในภาพรวมคาดรายได้จะทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 9.54% จาก 9.21% ในไตรมาส 4/66

สำหรับในปี 2567 คาดพลิกมีกำไรสุทธิ 4,574 ล้านบาท โดยยังคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรในปี 2567 เนื่องจาก มีปัจจัยบวกจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มเห็นผลบวกที่ชัดเจนขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 

ขณะที่ราคาไก่ไทยคาดจะยังดีขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน จากอุปสงค์จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น บวกกับแนวโน้มราคาสัตว์บกในต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามเริ่มฟืนตัว 

อย่างไรก็ตามราคาหมูไทยยังค่อนข้างผันผวน ซึ่งต้องติดตามแนวโน้มราคาในช่วงที่เหลือของปี โดยยังมีปัจจัยหนุนจากการลดกำลังการผลิตหมูของผู้ผลิตรายใหญ่ในไทย และการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ ที่อาจช่วยหนุนให้ราคาหมูฟื้นตัวได้ ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 21 บาท

2 หุ้นกลุ่ม “ซีพี” 1-1 copy.jpg