Talk of The Town
ตลาดหุ้นไทยปลาย Q2 สดใสแน่ หลังตลท.งัดกฎ Uptick คุมเข้มชอร์ตเซล โบรกฯ ชี้ 10 หุ้นพื้นฐานดี รับผลบวกเต็มๆ
26 เมษายน 2567

จากกรณีที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นชอบมาตรการช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้นไทย โดยเห็นชอบมาตรการการกำกับดูแลการทำธุรกรรม Short Sell สำหรับตลาดหุ้นไทย ดังนี้
1.ใช้กฎ uptick rule สำหรับทุกหลักทรัพย์ที่ทำธุรกรรมการ Short sell โดยการ Short Sell แต่ละครั้ง จะต้องสูงกว่าราคาล่าสุด 1 Step
และ 2. หุ้นกลุ่มที่สามารทำธุรกรรม Short Sell ได้ จะต้องมี Market Capital อย่างน้อย 7,500 ล้านบาท จากเดิมที่ 5,000 ล้านบาท
โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า จากประเด็นตลาดหลักทรัพย์ฯ แถลงมาตรการช่วยลดความผันผวนราคาหลักทรัพย์ (โดยเฉพาะที่เกิดจากการ Short Sales) และมาตรการลดพฤติกรรมซื้อขายไม่เหมาะสม คาดทยอยมีผลตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2/2567
นำโดยมาตรการ Uptick ทุกหลักทรัพย์ (ให้ขาย Short ได้ที่ราคาสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย) เทียบกับมาตรการเดิมที่เป็น Zero-plus Tick (ขาย Short ได้ในราคาที่เท่ากับหรือสูงกว่าราคาสุดท้าย)
ขณะที่อีกมาตรการสำคัญ คือ การเดินหน้าการจัดให้มี Central Platform ตรวจสอบปริมาณหลักทรัพย์ก่อนการซื้อขาย Short มีผลปลายไตรมาส 4/2567
โดยมองทั้ง 2 ส่วนจะช่วยลดความผันผวนราคาหลักทรัพย์จากการขาย Short ในระยะถัดไปได้ เป็นบวกต่อตลาด และและอาจหนุนหุ้นที่มีสถานะคงค้าง Short Sales ถูก Cover กลับ
ดังนั้นกลยุทธ์ ทีมกลยุทธ์ทำการคัดเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานระยะถัดไปน่าสนใจ ขณะที่ปัจจุบันเป็นหุ้นมีสถานะคงค้าง Short Sales สูงมากกว่า 1% คาดถูก Cover กลับเป็นแรงหนุนหุ้น เน้น BTS (3.36%) HANA (3.23%) MTC (2.08%) KCE (1.76%) KBANK (1.5%) AWC (1.45%) SAWAD (1.19%) BEM (1.17%) OSP (1.01%) BH (1.03%)
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากประเด็น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศมาตรการกำกับดูแลธุรกรรม Short Selling เพิ่มเติม เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด
โดยมีประเด็นที่มองว่าสำคัญ ได้แก่ การบังคับใช้เกณฑ์ Uptick ทุกหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มช่วงปลายไตรมาส 2 ซึ่งหากอ้างอิงสถิติในอดีตเมื่อปี 2563 พบว่ามีส่วนช่วยลดระดับมูลค่าธุรกรรม Short selling ในตลาดลงมาเหลือเฉลี่ยวันละ 1 พันล้านบาท จากปกติที่ 4 พันล้านบาท มองปัจจัยดังกล่าวจะช่วยเปิด Upside ให้กับหุ้นไทยมากขึ้นได้บ้าง ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 2 นี้เป็นต้นไป