กระดานข่าว
TSE โชว์กำไรปี 65 ที่ 724 ลบ. โต 47% ตั้งเป้า 3 – 5 ปี อัดงบลงทุนกว่า 6,000 ลบ.
23 กุมภาพันธ์ 2566
"ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่" โชว์กำไรปี 65 ที่ 724 ล้านบาท โต 47% จากปีก่อน เตรียมรุกโซลาร์ฟาร์ม+แบตฯ จากการประมูลขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ลุ้นฟังผลปลายมีนาคมนี้ ตั้งเป้า 3 – 5 ปี อัดงบลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท
ดร. แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 723.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 492.71 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจาก (1) กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PV Farm) ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โครงการ “ฮานามิซึกิ” (Hanamizuki) ให้แก่นักลงทุนสถาบันในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2565 และ (2) จากความสามารถในการบริหารต้นทุนขายและบริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับรายได้รวมในของปี 2565 (รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า) อยู่ที่ 1,974.07 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 2,176.87 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการรับรู้รายได้ที่ลดลงจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น 7 โครงการ ซึ่งจำหน่ายไประหว่างไตรมาส 3/2564 และ ในไตรมาส 1/2565 อย่างไรก็ดี บริษัทฯ รับรู้รายได้ในโครงการใหม่จากการเข้าซื้อ โครงการ “ซอยล์กรีต” โซลาร์ฟาร์มประเภท Solar Tracking ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งและเสนอขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ที่ผ่านมา ในส่วนของต้นทุนขายและบริการลดลงเหลือ 892.94 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1,075.24 ล้านบาท เนื่องจากนโยบายการบริหารจัดการต้นทุนของโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลที่ดีขึ้น
ดร.แคทลีน เผยอีกว่า บริษัทฯ มีความพร้อมทั้งด้านการเงินและทีมงาน โดยตั้งเป้างบลงทุนปี 66 ที่กว่า 6,000 ล้านบาท จากการเข้าร่วมประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง โดยมีโครงการของบริษัทฯและกลุ่มบริษัทที่ผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิค 30 โครงการ จาก 46 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และโครงการผลิตไฟฟ้าประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System: BESS) โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกภายในวันที่ 22 มี.ค. 2566 ทั้งนี้ TSE คาดหวังจะได้โควตาผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 200 เมกะวัตต์ จากโควตารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจำนวน 5,203 เมกะวัตต์
ดร. แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 723.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 492.71 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจาก (1) กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PV Farm) ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โครงการ “ฮานามิซึกิ” (Hanamizuki) ให้แก่นักลงทุนสถาบันในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2565 และ (2) จากความสามารถในการบริหารต้นทุนขายและบริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับรายได้รวมในของปี 2565 (รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า) อยู่ที่ 1,974.07 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 2,176.87 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการรับรู้รายได้ที่ลดลงจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น 7 โครงการ ซึ่งจำหน่ายไประหว่างไตรมาส 3/2564 และ ในไตรมาส 1/2565 อย่างไรก็ดี บริษัทฯ รับรู้รายได้ในโครงการใหม่จากการเข้าซื้อ โครงการ “ซอยล์กรีต” โซลาร์ฟาร์มประเภท Solar Tracking ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งและเสนอขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ที่ผ่านมา ในส่วนของต้นทุนขายและบริการลดลงเหลือ 892.94 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1,075.24 ล้านบาท เนื่องจากนโยบายการบริหารจัดการต้นทุนของโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลที่ดีขึ้น
ดร.แคทลีน เผยอีกว่า บริษัทฯ มีความพร้อมทั้งด้านการเงินและทีมงาน โดยตั้งเป้างบลงทุนปี 66 ที่กว่า 6,000 ล้านบาท จากการเข้าร่วมประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง โดยมีโครงการของบริษัทฯและกลุ่มบริษัทที่ผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิค 30 โครงการ จาก 46 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และโครงการผลิตไฟฟ้าประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System: BESS) โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกภายในวันที่ 22 มี.ค. 2566 ทั้งนี้ TSE คาดหวังจะได้โควตาผลิตไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 200 เมกะวัตต์ จากโควตารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจำนวน 5,203 เมกะวัตต์