ผถห. SSP อนุมัติจ่ายปันผล 0.10 บ./หุ้น ทุ่มงบ 1.5 หมื่นลบ.ลุยโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด

ผู้ถือหุ้น บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ไฟเขียวจ่ายปันผลในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น เตรียมรับทรัพย์ 24 พ.ค. 67 นี้ ฟากบิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” เตรียมทุ่มงบกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ลุยพลังงานทดแทนในรูปแบบใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าในมือเติบโต 2 เท่า ภายในปี 2571 สร้าง New S -Curve หนุนผลงานโตแกร่ง

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ในวันที่ 26 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2566 เป็นเงินสดในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2567

สำหรับความคืบหน้าในแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ บอร์ดอนุมัติให้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เมืองไถหนาน ประเทศไต้หวัน ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17 เมกะวัตต์ ด้วยสัดส่วนผู้ถือหุ้น 100% มูลค่าการลงทุนจำนวนไม่เกิน 1,220 ล้านบาท โครงการโซลาร์ฟาร์ม Leo 2 ในญี่ปุ่น ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าการลงทุน 2,700 ล้านบาท และลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 2 โครงการ มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท 

ล่าสุด SSP ได้ทำการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท วินชัย จำกัด เพิ่มอีกจำนวน 7,425,000 หุ้น หรือคิดเป็น 75% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท วินชัย จำกัด เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,128.9 ล้านบาท ทำให้ SSP ถือหุ้นรวมทั้งหมด คิดเป็น 100%  ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว และพร้อมรับรู้รายได้ในเดือนมีนาคม 2567

“แนวโน้มผลดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตโดดเด่นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการลงนาม MOU ร่วมกับ J&V Company เพื่อร่วมพัฒนาโครงการเพิ่มเติม และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบาโก ประเทศฟิลิปปินส์ กําลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ คาดจะได้ข้อสรุปภายในเดือนมิถุนายน 2567 และศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในมณฑลผิงตง ประเทศไต้หวัน กําลังการผลิตติดตั้ง 38 เมกะวัตต์ รวมการลงทุนในพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ กว่า 15,000 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าโต 2 เท่าตัว ในปี 2571 สร้าง New S -Curve“

อนึ่ง ผลการดำเนินงานในปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรหลักจากการดำเนินงานที่ 862.3 ล้านบาท