Talk of The Town
TRUE วิ่งแรงกว่า 5% จับตาพรุ่งนี้แจ้งงบไตรมาส 1/67 โบรกฯ คาดขาดทุนลดลง
02 พฤษภาคม 2567
ราคาหุ้นบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE วันนี้ (2 พ.ค.2567) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ให้ความเห็นว่า มีแรงซื้อเด่นในหุ้นกลุ่ม ICT นำโดย ADVANC หลังจากรายงานงบออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ทำให้มีแรงซื้อในหุ้น TRUE ตามมา
สำหรับ TRUE มีคาดการณ์ว่าจะประกาศผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.2567) ซึ่งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดผลประกอบการไตรมาส 1/67 ขาดทุนปกติที่ 618 ล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 1.6 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 และดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 1.9 พันล้านบาทในไตรมาส 1/66
ทั้งนี้ได้รับแรงสนับหนุนจากรายได้บริการมือถือ และ Broadband ที่เติบโตเด่นระดับ 5-6%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การลดต้นทุนเริ่มเห็นต้นทุนหลักลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบไตรมาสก่อนยังลดลงจำกัด
โดยการลดต้นทุนจะเริ่มเห็นผลในครึ่งหลังปี 2567 ซึ่งในระยะถัดไป GDP ควรจะเร่งตัวกลับเข้าสู่ศักยภาพที่ 3% ดังนั้น Servicer revenue จะยิ่งได้แรงส่งในด้านต้นทุน แม้ต้นทุนหลักเริ่มลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จากไตรมาสก่อนยังลดลงจำกัด
ในระยะถัดไปเมื่อ Integration Cost เกิดขึ้นไปมากแล้ว ต้นทุนรวมจะเริ่มลดลงเร็วขึ้นจากไตจรมาสก่อน โดยคาดเกิดขึ้นในครึ่งหลังปี 2567 ที่เป็นอีกปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการของ TRUE เร่งตัวขึ้นใน ในครึ่งหลังปี 2567
ดังนั้นประมาณการปี 2567 ที่คาดขาดทุน 1.3 พันล้านบาทมี Upside Risk แต่การพิจารณาความเหมาะสมจะอยู่ในช่วงกลางปี 2567 คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมที่ 8.60 บาทต่อหุ้น แม้ Upside ระยะสั้นเริ่มจำกัด แต่ประมาณการปี 2567 มี Upside Risk
และหากมองข้ามไปปี 2568 TRUE จะเข้าสู่ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวกำไรเต็มตัวซึ่งจะทำให้มูลค่าเหมาะสม และตลาดถูกปรับเพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิจัยให้ TRUE เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มสื่อสารในช่วง 6-12 เดือนจากนี้
สำหรับ TRUE มีคาดการณ์ว่าจะประกาศผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.2567) ซึ่งนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดผลประกอบการไตรมาส 1/67 ขาดทุนปกติที่ 618 ล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 1.6 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 และดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 1.9 พันล้านบาทในไตรมาส 1/66
ทั้งนี้ได้รับแรงสนับหนุนจากรายได้บริการมือถือ และ Broadband ที่เติบโตเด่นระดับ 5-6%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การลดต้นทุนเริ่มเห็นต้นทุนหลักลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อเทียบไตรมาสก่อนยังลดลงจำกัด
โดยการลดต้นทุนจะเริ่มเห็นผลในครึ่งหลังปี 2567 ซึ่งในระยะถัดไป GDP ควรจะเร่งตัวกลับเข้าสู่ศักยภาพที่ 3% ดังนั้น Servicer revenue จะยิ่งได้แรงส่งในด้านต้นทุน แม้ต้นทุนหลักเริ่มลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จากไตรมาสก่อนยังลดลงจำกัด
ในระยะถัดไปเมื่อ Integration Cost เกิดขึ้นไปมากแล้ว ต้นทุนรวมจะเริ่มลดลงเร็วขึ้นจากไตจรมาสก่อน โดยคาดเกิดขึ้นในครึ่งหลังปี 2567 ที่เป็นอีกปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการของ TRUE เร่งตัวขึ้นใน ในครึ่งหลังปี 2567
ดังนั้นประมาณการปี 2567 ที่คาดขาดทุน 1.3 พันล้านบาทมี Upside Risk แต่การพิจารณาความเหมาะสมจะอยู่ในช่วงกลางปี 2567 คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมที่ 8.60 บาทต่อหุ้น แม้ Upside ระยะสั้นเริ่มจำกัด แต่ประมาณการปี 2567 มี Upside Risk
และหากมองข้ามไปปี 2568 TRUE จะเข้าสู่ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวกำไรเต็มตัวซึ่งจะทำให้มูลค่าเหมาะสม และตลาดถูกปรับเพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิจัยให้ TRUE เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มสื่อสารในช่วง 6-12 เดือนจากนี้