Talk of The Town

เมื่อเงินเฟ้อของไทยเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.19% สูงกว่าที่ตลาดคาด อาจทำให้แบงก์ชาติชะลอหั่นดอกเบี้ย


03 พฤษภาคม 2567
จากประเด็นดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อ เดือนเม.ย.67 อยู่ที่ระดับ 108.16 หรือเพิ่มขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งพลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรก หลังจากที่ติดลบต่อเนื่องมา 6 เดือน 

เมื่อเงินเฟ้อของไทยเดือนเม.ย. copy_0.jpg

ทั้งนี้เนื่องจาก การสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตามสถานการณ์พลังงานในตลาดโลก ประกอบกับสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ สินค้าอาหารสด เช่น ผัก ผลไม้ ยังมีราคาสูงขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ในเดือนเม.ย.67 อยู่ที่ระดับ 104.66 เพิ่มขึ้น 0.37% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน 

นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า เงินเฟ้อไทยเดือน เม.ย. พลิกกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือนดังกล่าว มองเงินเฟ้อที่กลับมาขยายตัวเป็นผลมาจากการสิ้นสุดมาตรการลดภาษีดีเซล ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาอาหารสดที่ปรับเพิ่มขึ้นด้วย 
โดยอาจทำให้แรงกดดันที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยถูกชะลอออกไป ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” กลุ่ม Domestic Play ชอบ CPALL CPN MOSHI CBG BDMS และBH

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า เงินเฟ้อทั่วไปเดือนเม.ย.67 ที่กลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรก หลังจากหดตัวมา 6 เดือนต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อในเดือนพ.ค.67 

โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากทางฝั่งอุปทาน (Cost Push) และมิได้บ่งชี้ถึงพัฒนาการ/สัญญาณเชิงบวกในด้านภาวะอุปสงค์ (สะท้อนจาก Core CPI เดือนเม.ย.67 ที่ขยายตัว 0.37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เท่ากับในเดือนก่อนหน้า) 

ทั้งนี้ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็น Sentiment ทางลบต่อ SET Index ตามกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มถูกฉุดรั้งจากค่าครองชีพที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น Top pick 1. Defensive play อาทิ  BDMS, BH, EKH และ 2. Energy play อาทิ GPSC, GULF, OR