Talk of The Town
TU ประกาศผลงานไตรมาส 1/67 กวาดกำไรสุทธิ 1,153 ลบ. เติบโต 12.9% หลังทุกธุรกิจฟื้นตัวเด่น ดันยอดขายพุ่ง
08 พฤษภาคม 2567
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,153 ล้านบาท ขยายตัว 12.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับตัวดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ แม้ว่าบริษัทฯ จะรับรู้กำไรที่ลดลงจากอัตราแลกเปลี่ยน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า รวมถึงมีต้นทุนการเงินและภาษีที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 33,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการฟื้นตัวของ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า
อย่างไรก็ตามยอดขายของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับประโยชน์บางส่วนจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินบาทเทียบกับสกุลอื่นๆ ทั้งนี้หากไม่รวม
ผลจากการแปลงอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทฯ จะมียอดขายลดลงเล็กน้อย 1.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับยอดขายธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปอยู่ที่ 17,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ยอดขายธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งอยู่ที่ 9,618 ล้านบาท ลดลง 17.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากความต้องการซื้อที่ลดลงในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทกุ้งและเนื้อปู
รวมถึงการดำเนินกลยุทธ์ปรับลดสัดส่วนธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2566 อย่างไรก็ตามการลดลงนี้ถูกชดเชยบางส่วนด้วยการเติบโตของยอดขายของธุรกิจอาหารสัตว์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้านยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงอยู่ที่ 3,955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากยอดขายจากสินค้าพรีเมี่ยมที่สูงขึ้น กลยุทธ์การปรับราคา และการฟื้นตัวของยอดขายจากลูกค้าหลัก โดยเฉพาะในยุโรป และเอเชียและโอเชียเนีย
ส่วนยอดขายธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าอยู่ที่ 2,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากยอดขายจากธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าและธุรกิจส่วนประกอบอาหาร และสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 33,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการฟื้นตัวของ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า
อย่างไรก็ตามยอดขายของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับประโยชน์บางส่วนจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินบาทเทียบกับสกุลอื่นๆ ทั้งนี้หากไม่รวม
ผลจากการแปลงอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทฯ จะมียอดขายลดลงเล็กน้อย 1.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับยอดขายธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปอยู่ที่ 17,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ยอดขายธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งอยู่ที่ 9,618 ล้านบาท ลดลง 17.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากความต้องการซื้อที่ลดลงในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทกุ้งและเนื้อปู
รวมถึงการดำเนินกลยุทธ์ปรับลดสัดส่วนธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2566 อย่างไรก็ตามการลดลงนี้ถูกชดเชยบางส่วนด้วยการเติบโตของยอดขายของธุรกิจอาหารสัตว์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้านยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงอยู่ที่ 3,955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากยอดขายจากสินค้าพรีเมี่ยมที่สูงขึ้น กลยุทธ์การปรับราคา และการฟื้นตัวของยอดขายจากลูกค้าหลัก โดยเฉพาะในยุโรป และเอเชียและโอเชียเนีย
ส่วนยอดขายธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าอยู่ที่ 2,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากยอดขายจากธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าและธุรกิจส่วนประกอบอาหาร และสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น