เรื่องเด่นวันนี้
WP โชว์ผลงาน Q1/67 รายได้แตะ 4,848 ลบ. เติบโต 7.73% ปักหมุดยอดขายก๊าซ LPG ปีนี้ทะลุ 820,000 ตัน
10 พฤษภาคม 2567
บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 กวาดรายได้รวม 4,847.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 347.72 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ธุรกิขก๊าซ LPG ฟื้นตัวยอดส่งออกพุ่ง รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า ฟากผู้บริหาร “ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง”ส่งสัญญาณธุรกิจไปได้สวย ตั้งเป้าปี 67 ยอดขายก๊าซ LPG แตะ 820,000 ตัน ดันรายได้พุ่งสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายลงทุนธุรกิจใหม่ มุ่งสู่ Green Energy รับเมกะเทรนด์ ตอบโจทย์ ESG
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) ของบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 4,847.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 347.72 ล้านบาท หรือ 7.73% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 4,499.92 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 32.64 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ฟื้นตัวอย่างชัดเจนโดยเฉพาะภาคครัวเรือน ตามความต้องการใช้มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากเงินบาทอ่อนค่า และราคาขายก๊าซ LPG ปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาตลาดโลก
“ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/2567 บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายได้ตามเป้า โดยเฉพาะยอดการส่งออก อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ขณะเดียวกันดีมานด์ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงแนวโน้มราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงเชื่อมั่นว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 18,250 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง”
สำหรับกลยุทธ์ปี 2567 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนตั้งไว้ที่ 600 ล้านบาท โดยเน้นขยายการลงทุนด้าน Green Energy และยังคงมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่อยู่ในเมกะเทรนด์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาว่าจะเป็นรูปแบบการลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม, EV และ Battery Storage ฯลฯ เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ในปี 2567 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ายอดขายก๊าซ LPG จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 820,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 790,000 ตัน และส่งออก จำนวน 30,000 ตัน
ขณะที่การลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาไปรวมทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ มั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้กับกลุ่มบริษัท โดยตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567
นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) ของบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 4,847.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 347.72 ล้านบาท หรือ 7.73% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 4,499.92 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 32.64 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ฟื้นตัวอย่างชัดเจนโดยเฉพาะภาคครัวเรือน ตามความต้องการใช้มากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากเงินบาทอ่อนค่า และราคาขายก๊าซ LPG ปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาตลาดโลก
“ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/2567 บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายได้ตามเป้า โดยเฉพาะยอดการส่งออก อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า ขณะเดียวกันดีมานด์ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงแนวโน้มราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงเชื่อมั่นว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 18,250 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง”
สำหรับกลยุทธ์ปี 2567 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนตั้งไว้ที่ 600 ล้านบาท โดยเน้นขยายการลงทุนด้าน Green Energy และยังคงมองหาโอกาสในการขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่อยู่ในเมกะเทรนด์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาว่าจะเป็นรูปแบบการลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม, EV และ Battery Storage ฯลฯ เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ในปี 2567 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ายอดขายก๊าซ LPG จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 820,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 790,000 ตัน และส่งออก จำนวน 30,000 ตัน
ขณะที่การลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาไปรวมทั้งสิ้น 11 เมกะวัตต์ มั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recuring Income) ให้กับกลุ่มบริษัท โดยตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567