กระดานข่าว
‘ASW’ ประกาศผลงานไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวม 1,758 ล้านบาท กวาดยอดขายโค้งแรก 6,269 ล้านบาท โตแรงกว่า 65%
10 พฤษภาคม 2567
‘บมจ.แอสเซทไวส์’ หรือ ASW ประกาศผลงานไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวม 1,758 ล้านบาท ชูอัตรากำไรขั้นต้นยืน 41% พร้อมกวาดยอดขาย 6,269 ล้านบาท เติบโตกว่า 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มั่นใจไตรมาส 2 โดดเด่นรับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯภาครัฐ เปิด 2 โครงการใหม่ “เคฟ ลูมินัส บางมด” (Kave Luminous Bangmod) ใกล้ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) “เคฟ เจเนซิส นครปฐม” (Kave Genesis Nakhonphathom) ใกล้เซ็นทรัล นครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร มูลค่าโครงการรวม 2,460 ล้านบาท เดินหน้าโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่อง 4 คอนโดฯ แบรนด์เคฟ เดอะไทเทิลภูเก็ต และบ้านเดี่ยวอีก 2 โครงการ
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,758 ล้านบาท เป็นผลจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้นราว 9% (YoY) รวมทั้งการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ที่สร้างเสร็จในไตรมาส 4/2566 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมายังไตรมาสแรกของปีนี้ ได้แก่ โครงการเคฟ ทาวน์ โคโลนี (Kave Town Colony) ติด ม.กรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท , แอซโมท คาเนล รังสิต (Atmoz Kanaal Rangsit) ใจกลางรังสิต มูลค่าโครงการ 1,650 ล้านบาท เป็นแรงส่งที่ดีในการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของปี 2566-2567 ตลอดจนโครงการร่วมทุน (JV) ในโครงการเคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kasat) มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ซึ่งสร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ในไตรมาส 2/2567
ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 ทำได้ 256 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นจากการขายเงินลงทุนจากการร่วมทุน (JV) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ จะมีกำไรปกติในไตรมาส 1/2567 เติบโตเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ทำยอดพรีเซล (Pre-sale) ไตรมาส 1/2567 รวม 6,269 ล้านบาท เติบโตกว่า 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) คิดเป็นสัดส่วน 35% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 17,800 ล้านบาท เป็นผลมาจากการตอบรับที่ดีของโครงการคอนโดฯ “เดอะไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา” (The Title Heritage Bang-Tao) มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท จากที่เปิดขายช่วงต้นปี 2567 ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 52% และโครงการ “เดอะไทเทิล ซีรีนิตี้ ในยาง” (The Title Serenity Nai yang) มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท พัฒนาภายใต้บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทลูกของ ASW ที่ได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีแผนเปิดขายคอนโดฯ 2 โครงการใหม่ มีมูลค่าโครงการรวม 2,460 ล้านบาท ได้แก่โครงการ เคฟ ลูมินัส บางมด (Kave Luminous Bangmod) 617 ยูนิต ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท และโครงการ เคฟ เจเนซิส นครปฐม (Kave Genesis Nakhonphathom) 627 ยูนิต ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร มูลค่าโครงการ 1,160 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เดินหน้าเก็บเกี่ยวรายได้ไตรมาส 2 ต่อจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และคอนโดฯ รวมกัน 6 โครงการ โดยคอนโดฯ ได้แก่ เคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kasat) ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก, เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-รังสิต มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท , เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน (Kave Uni.Verse Bang Saen) ห่างจากมหาวิทยาลัยบูรพาเพียง 200 เมตร มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท และ เดอะไทเทิล ฮาโลวัน ในยาง (The Title Halo 1 Nai yang) โครงการที่ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,537 ล้านบาท ส่วนโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana), เอสต้า ซีรีนิตี้ บรมราชชนนี (ESTA Serenity Boromratchachonnani)
“จากการที่คณะรัฐมนตรี (คร.ม.) มีมติลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยเหลือ 0.01% ในราคาบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาทนั้น สำหรับไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ เตรียมพร้อมที่จะโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และคอนโดฯ รวมกันถึง 6 โครงการ จึงน่าจะเป็นอีกไตรมาสที่ดีของบริษัทฯ รวมถึงภาพรวมรายได้ทั้งปีของบริษัทฯ เนื่องจากพอร์ตที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมดของ ASW ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว โดยจะเป็นการช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการเร่งการตัดสินใจซื้อบ้าน พร้อมทั้งเร่งโอนกรรมสิทธิ์ให้จบภายในปีนี้เพื่อรับสิทธิ์ในมาตรการ” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
อนึ่ง ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 66 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 94,100 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 48 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 18 โครงการ และ ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 20,475 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,758 ล้านบาท เป็นผลจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้นราว 9% (YoY) รวมทั้งการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ที่สร้างเสร็จในไตรมาส 4/2566 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมายังไตรมาสแรกของปีนี้ ได้แก่ โครงการเคฟ ทาวน์ โคโลนี (Kave Town Colony) ติด ม.กรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท , แอซโมท คาเนล รังสิต (Atmoz Kanaal Rangsit) ใจกลางรังสิต มูลค่าโครงการ 1,650 ล้านบาท เป็นแรงส่งที่ดีในการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของปี 2566-2567 ตลอดจนโครงการร่วมทุน (JV) ในโครงการเคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kasat) มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ซึ่งสร้างเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้ในไตรมาส 2/2567
ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 ทำได้ 256 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้นจากการขายเงินลงทุนจากการร่วมทุน (JV) ในช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ จะมีกำไรปกติในไตรมาส 1/2567 เติบโตเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ทำยอดพรีเซล (Pre-sale) ไตรมาส 1/2567 รวม 6,269 ล้านบาท เติบโตกว่า 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) คิดเป็นสัดส่วน 35% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 17,800 ล้านบาท เป็นผลมาจากการตอบรับที่ดีของโครงการคอนโดฯ “เดอะไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา” (The Title Heritage Bang-Tao) มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท จากที่เปิดขายช่วงต้นปี 2567 ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 52% และโครงการ “เดอะไทเทิล ซีรีนิตี้ ในยาง” (The Title Serenity Nai yang) มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท พัฒนาภายใต้บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทลูกของ ASW ที่ได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีแผนเปิดขายคอนโดฯ 2 โครงการใหม่ มีมูลค่าโครงการรวม 2,460 ล้านบาท ได้แก่โครงการ เคฟ ลูมินัส บางมด (Kave Luminous Bangmod) 617 ยูนิต ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท และโครงการ เคฟ เจเนซิส นครปฐม (Kave Genesis Nakhonphathom) 627 ยูนิต ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม และมหาวิทยาลัยศิลปากร มูลค่าโครงการ 1,160 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เดินหน้าเก็บเกี่ยวรายได้ไตรมาส 2 ต่อจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และคอนโดฯ รวมกัน 6 โครงการ โดยคอนโดฯ ได้แก่ เคฟ ซี้ด เกษตร (Kave Seed Kasat) ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก, เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ-รังสิต มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท , เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน (Kave Uni.Verse Bang Saen) ห่างจากมหาวิทยาลัยบูรพาเพียง 200 เมตร มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท และ เดอะไทเทิล ฮาโลวัน ในยาง (The Title Halo 1 Nai yang) โครงการที่ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 1,537 ล้านบาท ส่วนโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana), เอสต้า ซีรีนิตี้ บรมราชชนนี (ESTA Serenity Boromratchachonnani)
“จากการที่คณะรัฐมนตรี (คร.ม.) มีมติลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยเหลือ 0.01% ในราคาบ้านไม่เกิน 7 ล้านบาทนั้น สำหรับไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ เตรียมพร้อมที่จะโอนกรรมสิทธิ์บ้าน และคอนโดฯ รวมกันถึง 6 โครงการ จึงน่าจะเป็นอีกไตรมาสที่ดีของบริษัทฯ รวมถึงภาพรวมรายได้ทั้งปีของบริษัทฯ เนื่องจากพอร์ตที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมดของ ASW ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว โดยจะเป็นการช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการเร่งการตัดสินใจซื้อบ้าน พร้อมทั้งเร่งโอนกรรมสิทธิ์ให้จบภายในปีนี้เพื่อรับสิทธิ์ในมาตรการ” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
อนึ่ง ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 66 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA), แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR), แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมถึงแบรนด์ภายใต้ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ “TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 94,100 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 48 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 18 โครงการ และ ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 20,475 ล้านบาท