AIT ประกาศผลงานไตรมาส 1/2567 ทำกำไรสุทธิโต 37% รุกขยายฐานลูกค้ารัฐเอกชนต่อเนื่อง หนุนผลงานปี 67 ทำรายได้แตะ 6,800 ล้านบาท
‘บมจ. แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี’ หรือ (AIT) ประกาศผลงานไตรมาส 1/2567 ทำรายได้จากงบเฉพาะกิจการ 1,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% และมีกำไรสุทธิ 133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% หลังรับรู้รายได้จากโครงการของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ พร้อมมั่นใจรายได้ปี 2567 ทำได้ 6,800 ล้านบาทตามเป้า เดินหน้าขยายฐานลูกค้ารัฐและเอกชนต่อเนื่อง พร้อมขยายเข้าสู่ธุรกิจสีเขียวสร้าง New S-curve ประกาศเข้าลงทุนใน บมจ. ซีโร่ ซีโอทู (Zero Co2) และ บจก. คาร์บอนลีด ลุยธุรกิจคาร์บอนเครดิต เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจรับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 (มกราคม – มีนาคม) บริษัทฯ มีรายได้จากงบเฉพาะกิจการอยู่ที่ 1,684 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1,297 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท โดยรายได้ที่เติบโตมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ อาทิ โครงการจ้างก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้าเสื่อมสภาพ สถานีไฟฟ้าบางสมัคร จังหวัดฉะเชิงเทรา ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โครงการซื้อขายอุปกรณ์เพื่อขยายบริการ IRIS Premium Cloud ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และโครงการจัดหาระบบจัดการแอปพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มแบบอัตโนมัติของสำนักงานประกันสังคม เป็นต้น
ทั้งนี้ ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 บริษัทฯ มีมูลค่างานที่มีอยู่ในมือ (Backlog) จำนวน 5,200 ล้านบาท โดยมีมูลค่างานที่อยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Waiting for P/O) จำนวน 150 ล้านบาท และมีงานที่เตรียมเข้าประมูลงานซึ่งมีมูลค่างานไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท นอกจากนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้รับอนุมัติงบประมาณปี 2567 จากสภาผู้แทนราษฎร ในวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งจะใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารจัดการให้ดีขึ้น เพื่อเป้าหมายสำคัญในการนำภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ดังนั้น โอกาสในการเข้าประมูลงานของภาครัฐจะมากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผน
ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 6,800 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์การดำเนินงานที่สำคัญ (Key Strategies) ในการขยายฐานลูกค้าสร้างการเติบโตของรายได้ พร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการทำงานที่ท้าทาย และพัฒนาระบบภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน คาดจะช่วยสนับสนุนในการสร้างผลตอบแทนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อแนวทางสู่การลดโลกร้อน เพราะในปัจจุบันปัญหาโลกร้อนได้ส่งผลกระทบกับชีวิตคนทั่วทุกมุมโลก และนับวันผลกระทบเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งพันธกิจการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) ไม่ใช่เรื่องของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย บริษัทฯ จึงได้เกิดแนวคิดซึ่งจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นหลัก ด้วยการวางแผนการลงทุนในธุรกิจสีเขียวที่จะช่วยสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่
1.) การขยายเข้าสู่ธุรกิจคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้อย่างครบวงจร ล่าสุด ได้เข้าลงทุนใน บริษัท ซีโร่ ซีโอทู จำกัด (มหาชน) (“Zero Co2”) โดย AIT ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ด้วยเงินลงทุน 10 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้อย่างครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การจัดหาต้นกล้าไม้พิเศษแบบเพาะเนื้อเยื้อ ดำเนินการปลูก ดูแล รักษา ตลอดอายุโครงการ รวมถึงการจัดการด้านงานเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นทะเบียนโครงการ หาผู้ตรวจวัด/ทวนสอบ ตลอดจนจัดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตกับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น Zero Co2 จึงเป็นผู้ให้บริการไม่กี่รายในระดับภูมิภาค ที่สามารถดำเนินงานการปลูกป่าแบบยั่งยืนและให้บริการที่เกี่ยวข้องได้อย่างครบวงจร
2.) การให้บริการระบบจัดทำรายงานคาร์บอนฟุตพรินท์แบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยี IoT และ AI (Automate Carbon Footprint Report) โดยการเข้าไปลงทุนใน บริษัท คาร์บอนลีด จำกัด ซึ่ง AIT ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ด้วยเงินลงทุน 5 ล้านบาท การดำเนินธุรกิจดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งของ New S-curve ธุรกิจพลังงานสีเขียวของ AIT ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุน เพื่อสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว
“สำหรับความคืบหน้าการปลูกป่าสักเชิงเศรษฐกิจจำนวนประมาณ 1,000 ไร่ ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันเริ่มเข้าสู่โครงการในระยะที่ 2 เพื่อดำเนินการปลูกต้นสักอีกจำนวนประมาณ 600 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567” นายศิริพงษ์ กล่าว
ยอดนิยม

VIH ซื้อหุ้นคืน 26.66 ล้านหุ้น ใช้เงินสดส่วนเกิน ยืนยันไม่เกี่ยวเงินเพิ่มทุน สาเหตุราคาหุ้นไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน ตั้งเป้าทำนิวไฮใหม่ปีนี้

13 มีนาคมนี้!!! ผู้ถือหุ้น MC รับเงินปันผลบานฉ่ำ !!!
.jpg)
“นิปปอนเพนต์” ก้าวล้ำวงการสีด้วยพลัง AI! ส่งสุดยอดแพ็กคู่โซลูชัน “น้องนิปปอน” และ “Colour Design”

เบเยอร์ เขย่าวงการธุรกิจสีทาอาคาร สำเร็จเจ้าแรก! ใช้เทคโนโลยีล้ำ AI OCR อ่านบิลเขียนมือได้ รันแคมเปญใหญ่ "ลดเดือดรับ Summer แจกไม่ยั้ง!"
