Talk of The Town

3 โบรกฯ การันตี CPALL เด่นสุด รับแรงซื้อช่วยประคองตลาด หลังแจ้งงบไตรมาส 1/67 กำไรโต


13 พฤษภาคม 2567
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อยที่ระดับ 1,371.90 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 2.61 จุด ส่วนดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิด 39,512.84 จุดปรับเพิ่มขึ้น 125.08 จุดและเป็นการปิดบวกต่อเนื่องกันเป็นวันที่แปด ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่าดัชนีหุ้นไทยยังแกว่งตัว Sideways 

TOT แนวนอน 3 โบรกฯ การันตี CPALL เด่นสุด_0.jpg

โดย บล.ฟินันเซีย คาดวันนี้ SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,365-1,380 จุดโดยคาดตลาดจะตอบรับเชิงบวกต่อกำไรไตรมาส 1/67 ของ CPALL และช่วยประคองตลาด 

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส1/67 ของบจ. เท่าที่ประกาศออกมาแล้วโดยรวมดูดีกว่าที่ตลาดคาดราว 6% ซึ่งเป็นสัญญาณบวกและช่วยจำกัด Downside ของประมาณการ EPS ปี 2024 ของเราที่ราว 91.50 บาท และทำให้เรายังคงมุมมองว่า SET Index น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในรอบที่ผ่านมา 

ขณะที่ บล.กสิกรไทย ประเมินสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,360–1,390 จุดหลังดัชนีฟื้นตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนก่อน โดยเชื่อภาพใหญ่ตลอดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีกำหนดจะประกาศในช่วงกลางสัปดาห์นี้ อีกทั้งระยะสั้นราคาน้ำมันปรับตัวลง หุ้นพลังงานอาจยังกดดัชนีตลาด ดังนั้นมองหุ้นในกลุ่มที่รายงานผลประกอบการเติบโตแรงหรือดีกว่าคาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ดีเช่น THANI, WHA, CPALL, BTG, VRANDA 

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาด SET Index คาดแกว่งออกข้างตามกรอบ 1365-1380 จุดหลังตลาดฯ ยังขาดแรงขับเคลื่อนใหม่ โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งออกข้างในช่วง -0.03% ถึง 0.32% หลังจากรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. 

โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนทาจุดต่ำสุดรอบ 6 เดือนที่ 68.8 ต่ำกว่าคาด 79 จุด ขณะที่กรรมการ FED สาขา Atlanta และ Dallas ให้ความเห็นว่าการลดดอกเบี้ยของ FED ยังมีความไม่แน่นอนจนกว่าทิศทางเงินเฟ้อจะเข้าสู่เป้าหมายของ FED ซึ่งสัปดาห์นี้ (วันที่ 15 พ.ค.) ติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน เม.ย. ตลาดคาดว่าขยายตัว 3.4%YoY ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 3.5% จากปีก่อน

หุ้นเด่นแนะนำ บล.ฟินันเซีย 
CPALL (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 77 บาท แนวรับ 57.50//56 บาท แนวต้าน 60//62//64 บาท)
รายงานกำไรสุทธิ 6.3 พันลบ. ดีกว่าคาด 24% หนุนจากยอดที่ดีกว่าคาดโดยเฉพาะจาก SSSG ของธุรกิจ CVS ที่ +4.9% (เราคาด 3.5%) รวมถึง Gross margin รวมปรับดีขึ้นเป็น 22.3% ขณะที่ SG&A to revenue ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเหลือ 19.9% จากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

หุ้นเด่นแนะนำ บล.กสิกรไทย
CPALL: ราคาพื้นฐานที่ 78.0 บาท
บริษัทรายงานกำไรสำหรับไตรมาส 1/67 ที่ 6.3 พันลบ. ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงทั้ง 15% Q0Q และ 53% YOY มองไปข้างหน้าแนวโน้ม outlook ของ CPALL ดูดีทั้งจากผลประกอบการสำหรับไตรมาส 2/67 น่าจะเติบโตดีต่อเนื่องจาก SSSG ที่ยังขยายตัวได้ดีและฐานต่ำในปีที่แล้ว อีกทั้งหากมองไปครึ่งปีหลังยิ่งน่าสนใจเนื่องจากบริษัทคาดว่าจะได้อานิสงค์บวกจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐ
THANI: ราคาพื้นฐาน 2.50 บาท
บริษัทรายงานกำไรสำหรับไตรมาส 1/67 ที่ 343 ลบ. ลดลง 24% YoY แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 113% Q0Q โดยผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าที่คาดและที่ตลาดประเมินถึง 46% จากการตั้งสำรองหนี้เสียที่ลดลงโดยกำไรสำหรับไตรมาส 1/67 คิดเป็นแล้วกว่า 30% มองว่า THANI เป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มการเงิน Finance ที่จะได้อานิสงค์บวกจากภาพ Bondyield โลกที่มีการปรับตัวลดลง

หุ้นแนะนำ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง 
CPALL (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท)
รายงานกำไรสุทธิ 1Q67 อยู่ที่ 6.32 พันล้านบาท คิดเป็น 31% ของประมาณการกำไรทั้งปี 67 ทำให้เชื่อว่ามีโอกาสเห็นการปรับประมาณการกำไรขึ้น การเติบโตหลักๆ มาจากยอดขายโต 9%YoY หนุนจาก SSSG ของ 7-11 ที่ขยายตัว 4.9% Gross Margin ที่เพิ่มขึ้น 56 bps YoY มาที่ 22.3% ทั้งผลิตภัณฑ์ Foodและ Non-Food และ SG&A/Sales มาที่ 19.3% ลดลงจาก 19.4% ใน 1Q23 จากค่าสาธารณธูปโภคและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

WHA (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 5.50 บาท)
รายงานกำไรสุทธิ 1.36 พันล้านบาทดีกว่าตลาดคาดที่ 69% อย่างมากแรงสนับสนุนมาจากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรรมที่รายได้จากการโอนที่ดินเพิ่มขึ้น 102.4%YoY สูงขึ้นมากกว่าสองเท่าตัวเมื่อเทียบกับ 1/63 และกำไร 1/67 คิดเป็นสัดส่วน 28% ซึ่งโดยปกติในช่วง 2/67 มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง QoQ และ YoY นอกจากนี้ยอดขายที่ดิน 1/67 ที่ 629 ไร่คิดเป็นสัดส่วน 28% ของเป้าหมายบริษัทปี 67