BLA ผลดำเนินงาน Q1/67 กำไรแตะ1,241 ลบ. เพิ่มขึ้น 64%

กรุงเทพประกันชีวิต ผลดำเนินงานQ1/67 มีกำไรสุทธิ 1,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากไตรมาส 1 ปี 2566 ผลจากแผนขยายงานช่องทางตัวแทน ส่งผลเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจากตัวแทนเพิ่มขึ้น 13% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปเพิ่ม 6 % รวมทั้งช่องทางอื่นๆ มีเบี้ยประกันภัยรับปีต่อเพิ่มขึ้น 45% และช่องทางธนาคารเพิ่มขึ้น 3 %



นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA เปิดเผยถึงผลดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ว่า บริษัทฯมีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน 8,559 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวนทั้งสิ้น 1,600 ล้านบาท ลดลง 27% จากไตรมาส 1 ของปี 2566 และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไปจำนวน 6,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากไตรมาส 1 ปี 2566 และเพิ่มขึ้น 247% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว 

สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ลดลง เป็นผลจากช่องทางธนาคารที่มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกลดลง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่สูงเนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่องทางธนาคาร ขณะที่ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก เพิ่มขึ้น 13% จากการจัดทำแคมเปญและสร้างกิจกรรมเพื่อกระตุ้นผลงานตัวแทนที่ให้ผลตอบรับที่ดี  ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป เพิ่มขึ้น6% เป็นผลจากช่องทางอื่นๆ ที่มีเบี้ยประกันภัยรับปีต่อเพิ่มขึ้น 45% และช่องทางธนาคารเพิ่มขึ้น 3% ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีต่อในช่องทางธนาคาร ตัวแทน และช่องทางอื่นๆ คิดเป็น50% / 37% และ13% ตามลำดับ

 สำหรับสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีจำนวน 312,125 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2566 ที่ 4% จากการลดลงของสินทรัพย์ลงทุนจากกรมธรรม์ที่ครบกำหนด ทั้งนี้ สินทรัพย์ลงทุนและรายการเทียบเท่าเงินสดคิดเป็นสัดส่วน 97% ของสินทรัพย์รวม และบริษัทมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR) ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 435% เพิ่มขึ้นจาก 405% ณ สิ้นปี 2566 จากผลกำไรจากการดำเนินงานและกรมธรรม์ที่ครบกำหนดสัญญา และสูงกว่าระดับที่คปภ. กำหนดไว้ที่ 140% อย่างมีนัยสำคัญ

“ในปี 2567 เราให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เน้นปรัชญาการทำงานบนความ ‘ใส่ใจ’ ในทุกมิติ ด้วยความเข้าใจ จริงใจ และ การดูแลด้วยใจ พร้อมปลูกฝังทัศนคติให้กับบุคลากรและตัวแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการเป็นแบรนด์ที่เข้าใจ จริงใจ ใส่ใจ (The Most Caring Insurance Brand) ที่ดูแลลูกค้ามากกว่าแค่การประกันชีวิต” นายโชน กล่าว