จับประเด็นหุ้นเด่น

รายงานพิเศษ : SAFE ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก กำไรQ1/67 ดีกว่าคาด ผู้บริหารมั่นใจรายได้ปีนี้ทำสถิติใหม่


15 พฤษภาคม 2567
สถานการณ์การเกิดใหม่ของเด็กที่ยังอยู่ในระดับต่ำ  ส่งผลดีต่อธุรกิจบมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE)  ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันทางการแพทย์  ดันไตรมาสแรกปีนี้กำไรเติบโตสูงกว่าตลาดคาดาการณ์ ผู้บริหารมั่นใจผลงานปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ 

รายงานพิเศษ SAFE ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก.jpg

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ได้ออกบทวิเคราะห์ บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE)   โดยระบุว่า SAFE รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.6% จากปีก่อน ทําสถิติสูงสุดรายไตรมาส และดีกว่าเราคาด 5% 

จากอัตรากําไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดหลังปรับค่ารักษาเพิ่มประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานปรับลงมากกว่าคาด ส่วนรายได้รวมเพิ่มขึ้น 14.4% จากไตรมาสก่อน และ 33.7% จากปีก่อน จากจํานวนรอบของการเก็บไข่ในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 358 รอบ เพิ่มขึ้นจาก 323 รอบ ในไตรมาส 4/66 และ 280 รอบ ในไตรมาส 1/66 และค่ารักษาปรับเพิ่มขึ้นราว 4% ตามคาด

ส่งผลอัตรากําไรขั้นต้นปรับขึ้นมาอยู่ที่ 58.4% จากค่ารักษาที่ปรับขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานปรับลดลงเนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจ้าง Agency เหมือนไตรมาสก่อน  และมีกําไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 67 ล้านบาท คิดเป็น 24% ของประมาณการกําไรทั้งปี 67  ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” 

ส่วนแนวโน้มรายได้จากการทําเด็กหลอดแก้ว (IVF)  และบริการตรวจพันธุกรรมยังคงดีต่อเนื่องในเดือน เม.ย 2024 จากลูกค้าชาวไทยที่เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ส่วนลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นตามจํานวนนักท่องเที่ยว และคาดหวังลูกค้าจากจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น Upside ในปีนี้ สําหรับแผน M&A คลินิกเด็กหลอดแก้ว (IVF) ทั้งในและต่างประเทศยังอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจา

ราคาหุ้นปรับขึ้นมาเทรดที่ระดับ PE ปี 67 ที่ 24 เท่า ใกล้เคียงกับหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่ซื้อขายเฉลี่ยกันที่ 27-30 เท่า ราคาเป้าหมายของเราปัจจุบันอยู่ที่ 25 บาท แต่เราอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการและราคาเป้าหมายใหม่หลังประชุมนักวิเคราะห์

ด้าน นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAFE ระบุแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 67 บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง 

โดยจะมุ่งสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ และการเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ในธุรกิจด้าน Wellness รวมถึงแผนร่วมลงทุนในธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัท และในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 25% สร้างสถิติสูงสุดใหม่

ทั้งนี้การที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมทบทวนปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการกับคู่รักสามีภรรยาที่มีลูกยาก 

โดยเบื้องต้นจะมีการปรับแก้เกณฑ์กฎหมาย "พ.ร.บ.อุ้มบุญ" ในปี 67 บริษัทฯ มองเป็นผลบวกต่อกลุ่ม SAFE โดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยาก ที่เป็นชาวต่างชาติในหลายสัญชาติ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 50% ของเคสทั้งหมดเฉลี่ยต่อปี เช่น เวียดนาม อินเดีย จีน เมียนมา สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น ทำให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าในหลายประเทศอยู่แล้ว และมีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงเกิน 70%