Gossip Station..by เจ๊จิ๋ม

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 16-05-24 (หาหุ้นรุ่ง-ร่วง..รับค่าแรงพุ่งแตะ 400 บาท)


16 พฤษภาคม 2567

Gossip Station by..เจ๊จิ๋ม 16-05-24  (หาหุ้นรุ่ง-ร่วง..รับค่าแรงพุ่งแตะ 400 บาท)

 

16-05-24 สวัสดีพี่น้องชาวไทย "เจ๊จิ๋ม" มารายงานตัว ณ ที่เก่าเวลาเดิม www.share2trade.com เปิดอ่านได้เลยมีเรื่องเด็ดๆ โดนๆ มาเม้าท์กันให้สนั่นวงการลงทุนของพวกเรากันเถอะ 

***ชัดเจนแล้ว MSCI ประกาศหุ้นเข้าออกในการคานวณดัชนี ปรับน้าหนักดัชนีวันที่ 31 พ.ค.  การปรับหุ้นเข้าออกโดยมีหุ้นไทยถูกคัดเข้าดัชนี 1 บริษัท และออก 13

-หุ้นที่ออกจากดัชนี MSCI GLOBAL STANDARD(ดัชนีหุ้นขนาดใหญ่) 3 บริษัทคือ BTS, MTC, LH โดยถูกลดช้ันลงมาอยู่ที่ดัชนี MSCI SMALL CAP 

-หุ้นที่ถูกคัดเข้าดัชนี MSCI SMALL CAP คือ JTS 

-หุ้นที่ถูกคัดออกจาก MSCI SMALL CAP คือ BLAND,DITTO, FORTH, KSL, MAJOR, PSL, RS, SGP, SPCG, WHAUP 

***ได้ฟังคำแนะนำตรงนี้อาจทำให้พี่ๆ นักลงทุนสบายใจขึ้น กูรูบอกว่าโดบปกติหุ้นท่ีออกจากดัชนีจะผันผวน และมีโอกาสถูกกดราคาลงราว -3% ถึง – 4% ช่วงก่อนวันที่มีผล อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อปัจจัยทางพื้นฐานแต่อย่างใด 

***หลังจากที่ครม.มีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าการกําหนดอัตราค่าจ้าง 400 บาท/วัน ทั่วประเทศ มีการคาดการณ์ว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้บังคับใช้ ก.ย. - ต.ค.67 หรือ ราวไตรมาส 3-4 ปีนี้ คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้ราวน 13% จากค่าแรงข้ันต่ําในปัจจุบัน 

***มีรายงานว่าจากข้อมูลในอดีตในช่วง 12–13 ปีที่ผ่านมาพบว่ากระทรวงแรงงานมีการขึ้นค่าแรง ขั้นต่ํามาแล้ว 7 ครั้ง หากไม่นับปี 2011 มีการขึ้นค่าแรงข้ันต่ําในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑลอยู่ในช่วง 3–15 บาท/วัน หรือมีการปรับขึ้น 1-7% สะท้อนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ําในปีล่าสุด ถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับในอดีตมาก 

***กูรูในวงการหุ้นบอกว่าได้ลองทําการศึกษาในเชิงปริมาณ หาพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของ หุ้นแต่ละ SECTOR ในช่วงเวลา 1 เดือน หลังมีการประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ํา พบว่ กลุ่มหุ้นที่ OUTPERFORM ตลาด (RETURN ชนะ SET / ALPHA >0%) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อเพิ่มขึ้น อาทิ FIN +7.2%, HELTH +7.0%, COMM +5.7%, TRANS +5.1% TOURISM +3.8% เป็นต้น 

***ในทางตรงกัน ข้ามกลุ่มหุ้นที่ UNDERPERFORM ตลาด(RETURN แพ้ SET / ALPHA <0%) และ ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นกระทบต่อกําไรชัด อาทิ CONS -7.6%, PKG -7.1% ซึ่ง หุ้นกลุ่มนี้น่าจะนําไปปรับใช้ในการปรับพอร์ต เพื่อรับมือกับประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ําในระยะถัดไปได้ 

***หันมามองดูหุ้น NEX แล้วก้อถอนหายใจเฮือกใหญ่..มันเกิดอะไีรขึ้นวะ??? หาสาเหตุไม่เจอจริงๆ เพราะเช็คข้อมูลรอบด้านไม่เห็นสัญญาณที่เป็นเชิงลบเลย ที่สำคัญบริษัทได้แจ้งข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ด้วยว่า .หลังจากตลาดฯเป็นห่วงและขอให้มีบริษัทฯ ชี้แจงเกี่ยวกับพัฒนาการที่สําคัญในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากราคาซื้อขายหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาที่ปรับลดลง ในช่วงวันที่ 13-15 พฤษภาคม 2567 นั้น “บริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ นอกเหนือจากที่ได้เปิดเผยผ่านระบบตลาด หลักทรัพย์แล้ว”

***วันนี้ทุกคนคงได้เห็นสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ย หลังจากที่สหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคออกมา วงการต่างคาดการณ์ว่ารายงานเงินเฟ้อ CPI เม.ย. Consensus คาด +0.4%m-m, +3.4%y-y (ใกล้เคียงกับ Top rank economist) และ Core CPI เดือนเดียวกัน คาด +0.3%m-m และ 3.4%y-y 

***เกี่ยวเนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อ..งานนี้แบ่งออกมาเป็น 2 เคสคือ 

1.) หากสูงกว่าคาด มองระยะสั้น เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นธนาคารขนาใหญ่ และประกันชีวิต 

2.)หากต่ำกว่าคาด มองบวกต่อหุ้นกลุ่มการเงิน, กลุ่มโรงไฟฟ้า 

NEX